วธ. ชวนเที่ยวงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ”

ราชดำริ 6ก.พ.-  วธ. ชวนเที่ยวงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ” นำสินค้า CPOT มุ่งบุกตลาดนักท่องเที่ยวจีน ตะวันออกกลาง ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ 6 – 9 กุมภาพันธ์ นี้


นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ” โดยมีนางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานกรรมการบริหารคนที่ 1 กลุ่มบริษัท บีเจซี บิ๊กซี นายกลศ หิรัญบูรณะ กรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอก อินสตรูเม้นท์ เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกลุ่มบริษัท บีเจซี บิ๊กซี ผู้ประกอบการ สื่อมวลชน และแขกผู้ร่วมงาน  เข้าร่วม ณ บิ๊กซี (Big C) สาขาราชดำริ

นายประสพ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ต่อยอดจากการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) ในการส่งเสริมทางการตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (Cultural Product of Thailand : CPOT) ร่วมกับ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี และบริษัท บางกอก อินสตรูเม้นท์ เซ็นเตอร์ จำกัด ตั้งแต่กลางปี 2566  ที่ผ่านมาทั้ง 3 หน่วยงานได้สานฝันชุมชน ผู้ประกอบการยกระดับนำสินค้าชุมชนเข้าสู่ตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือ Modern Trade สามารถสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ CPOT ให้กับ 38 ชุมชน แล้ว กว่า 60 ล้านบาท  จากการวางจำหน่ายสินค้า ณ บิ๊กซี 65 สาขาทั่วประเทศ


Screenshot

ในปี 2568 นี้ วธ. มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตด้านเศรษฐกิจวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมกันจัดงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ” ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ ระหว่างวันที่ 6 – 9 กุมภาพันธ์ 2568 โดยภายในงานมีกิจกรรมการออกร้านจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมหลากหลายประเภท  ทั้ง ผ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ สมุนไพร ของใช้ ของตกแต่งบ้าน กว่า 300 รายการ นอกจากนี้ยังมีการสาธิตอาหารโบราณ นวดไทย และการแสดงศิลปวัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน และชาวตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีความชื่นชอบเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก และของใช้แบบไทยๆ  ทั้งนี้มีชุมชน ผู้ประกอบการ ที่นำสินค้ามาร่วมออกร้าน เช่น ผ้าและเสื้อผ้าลายโบราณ (ลายอย่าง) สมัยอยุธยา ที่นำมาประยุกต์ให้สามารถสวมใส่ได้หลากหลายโอกาส จากแบรนด์ภูษาผ้าลายอย่าง เพชรบุรี เสื้อลายวรรณคดีไทย ที่นำมาปรับให้มีความร่วมสมัย จากแบรนด์สนอบ (SNOB)  นนทบุรี เสื้อผ้าม่อฮ่อมร่วมสมัย โดยการใช้พู่กันวาดลวดลายตามธรรมชาติจาก แบรนด์มหาภรณ์ ลำปาง ของที่ระลึกช้างไทยที่ทำมาจากกระดาษเหลือใช้ มาเพิ่มมูลค่าด้วยการเดินเส้นทองลายไทยแรงบันดาลใจจากการเขียนเบญจรงค์ แบรนด์เปเปอร์อารต์ไทย สมุทรสาคร ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย แบรนด์มาบเอื้อง ชลบุรี เป็นสมุนไพรสดที่นำมาแปรรูป ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด มีทั้งแชมพู สเปรย์น้ำแร่  ครีมทาผิว ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสาธิตอาหารขนมโบราณจาก ร้านคำอ้อนขนมไทย พระนครศรีอยุธยา ขนมเปี๊ยะใส่ทุเรียนสด จากร้านแม่เล ปทุมธานี และตอกย้ำมรดกภูมิปัญญาไทยอันเลื่องชื่อด้วยการสาธิตนวดประคบสมุนไพรจากชุมชนโพธิ์ทอง อ่างทอง สปาเท้าสมุนไพร ชุมชนบางเมืองใหม่ สมุทรปราการ เป็นต้น 

Screenshot

ด้าน นางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานกรรมการบริหารคนที่ 1 บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เผยว่า บิ๊กซี มุ่งสนับสนุนนโยบายของภาครัฐและกระทรวงวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ตลอดจนสามารถกระจายรายได้สู่ชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันกับเรา ล่าสุดเราได้ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในการจัดงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ” ซึ่งเราเชื่อว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจาก บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ เป็นหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญในกรุงเทพ ฯ ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชื่นชอบคาดว่าในช่วงเวลาจัดงาน จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อสินค้าและเข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000 คน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเปิดโอกาสให้ชุมชน ผู้ประกอบการ ได้สำรวจตลาดนักท่องเที่ยวเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดสินค้าทางวัฒนธรรมให้ตอบโจทย์ได้ตรงใจผู้ซื้อ นำไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน สินค้า “Soft Power” ออกสู่ตลาดโลก มุ่งสู่เป้าหมายสร้างรายได้ 100 ล้านบาท ภายในปีนี้

Screenshot

นายธวัชชัย ถิรวัฒนกำจร เอ็มดี บจก.สยามแม็กเนท กล่าวว่า ขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรม ที่เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยของ สยามแม็กเนท   และได้เลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ CPOT  และได้นำผลิตภัณฑ์ทางวัฒธรรมมาจำหน่ายวันนี้ โดยมีทั้ง แม็กเนท พวงกุญแจ ที่รวบรวมวัฒนธรรมไทย เอกลักษณ์ความเป็นไทยใส่เข้าไปในชิ้นงานแม็กเนทได้อย่างลงตัวและทันสมัย ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกของไทยที่รวบรวมแมกเนทไทย มีมากกว่า 700 รูปแบบที่สื่อถึงความเป็นไทย  อย่างวัดวาอาราม สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร สตรีทฟู้ด  โดยได้แรงบันดาลใจมากจากที่ไปเที่ยวยุโรป แล้วมองว่า บ้านเรายังไม่มีแม็กเนทที่รวบรวมเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยใส่ไว้ในชิ้นงานแบบหลากหลาย จึงเริ่มทำมาช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า กระแสตอบรับดีมาก นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกและของฝากกลับประเทศ  ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นต่างชาติ ร้อยละ80 เป็นคนไทยร้อยละ20 .-สำนักข่าวไทย


Screenshot
Screenshot
Screenshot
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]