“โรม” ขู่ยื่น ป.ป.ช. หลัง รมต.ไม่มาตอบกระทู้ถามสด

รัฐสภา 16 ม.ค.- “โรม” โวย ไม่มีรมต.ตอบกระทู้ถามสด “แก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์” ขู่ ถ้าไม่มาอีกยื่นเรื่อง ป.ป.ช. ฐานไม่ทำตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ด้าน “ประธานวิปฝ่ายค้าน” ลั่นไม่มีประสานล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ “ภราดร” กำชับ “ครม.” ให้ความสำคัญฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะคือการให้เกียรติประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่2 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ถามนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) แต่นายประเสริฐ ขอเลื่อนกระทู้ดังกล่าวออกไปก่อน ประธานในที่ประชุมจึงให้นายรังสิมันต์อภิปรายได้

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า เรื่องที่ตนตั้งใจจะถาม เป็นเรื่องที่มีความสำคัญช่วงเวลาที่ผ่านมา คือเรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นปัญหาใหญ่กัดกินสังคมไทย และสังคมทั่วโลกมาเป็นเวลานาน และความเสียหายลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่ประชาชนทั่วไป แต่พบว่าคนที่มีความสำคัญกับบ้านเมืองแม้กระทั่งนายกฯ ที่พูดเองว่าเกือบจะเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าเรื่องนี้มีความสำคัญแน่นอนที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรจะได้รู้ ว่าตกลงแล้วรัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่เรื่องเงินในกระเป๋าของประชาชนที่ถูกดูดออกไป แต่ยังรวมไปถึงปัญหาการค้ามนุษย์ ที่นับวันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างรุนแรง เช่น กรณีนักแสดงจีน ซิงซิง ก็เริ่มมีข่าวออกมาเป็นระยะว่ามีนักท่องเที่ยวยกเลิกเข้ามาในประเทศไทย ตนตั้งใจที่จะถามเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกันหลายกระทรวง ซึ่งประธานวิปฝ่ายค้านได้ประสานล่วงหน้ากับวิปรัฐบาล เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ว่าเราจะมีการตั้งกระทู้ถามถึงนายกรัฐมนตรี และยังบอกถึงขนาดว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่สามารถมาตอบกระทู้นี้ได้ เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคยมาตอบ ท่านสามารถมอบกระทรวงมหาดไทย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กระทรวงดีอีเอส หรือกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ ซึ่งกระทรวงเหล่านี้ก็เกี่ยวกับการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ตามชายแดนของประเทศไทย

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันนี้ (16 ม.ค.) กลับไม่มีรัฐมนตรีคนไหนตอบ ท่านบอกว่าอาจจะเป็นเลื่อนตามข้อบังคับ 151 แต่ต้องไม่ลืมว่าข้อบังคับ 160 กำหนดว่ากระทู้ถามสดให้ถามได้โดยเวลารวมกัน 90 นาที หรือประมาณ 3 กระทู้ การเลื่อนนัยยะนี้เท่ากับว่ากระทู้ที่ตนได้ตั้ง ตกลงไป นั่นหมายความว่าสิทธิ์ของสมาชิกที่จะถามกระทู้ และเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่มาตอบตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงตามข้อบังคับ สิทธิ์นี้ไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป และจากสถิติฝ่ายค้านได้ถามกระทู้สดโดยยื่นไปแล้ว 20 กระทู้ ปรากฏว่ามีการมาตอบกระทู้นับตั้งแต่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเพียง 13 กระทู้ คิดเป็นแค่ประมาณ 65%

“วันนี้เราอยู่ในยุคสมัยที่การตอบกระทู้ของสมาชิกถูกละเลยความสำคัญขนาดนี้เลยหรือ พวกเราบอกล่วงหน้าท่านตั้งแต่วันจันทร์ จะเอากระทรวงไหนมาตอบเรายินดี เราทำถึงขนาดนี้ จากเดิมกระทู้สด ที่โดยปกติท่านจะรู้ล่วงหน้าคือ 08.00 น. ของวันที่มีการถาม เราบอกล่วงหน้ากันขนาดนี้ ตอนนี้กระทู้สดแทบจะไม่สด ท่านก็ไม่มาตอบเรา” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับตนพูดเรื่องนี้ด้วยความเหลืออด ตนได้หารือกับประธานวิปฝ่ายค้าน ว่า ต่อจากนี้ไปเราคงจะไม่บอกล่วงหน้ากันอีกแล้ว เพราะบอกล่วงหน้าไปสุดท้ายท่านก็ไม่ให้ความร่วมมือกับเราอยู่ดี ถ้าแบบนี้ เราจะใช้วิธีการตั้งตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้ว ที่เราไม่ได้มีการบอกล่วงหน้าว่าจะถามใคร พวกเรายังได้ความร่วมมือคิดว่าน่าจะมากกว่า ดังนั้น เราจะกลับไปใช้วิธีการแบบเดิมที่ปรากฏอยู่ในข้อบังคับการประชุมว่า 08.00 น. รู้กัน จะมาตอบหรือไม่ตอบก็ให้สังคมได้รู้ว่าท่านให้ความสำคัญกับสภาฯแห่งนี้อย่างไร หรือท่านให้ความสำคัญกับประเด็นที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างไร

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนถือว่าการที่ท่านไม่มาตอบ ไม่ได้เป็นการใช้สิทธิ์เลื่อนแบบทั่วไป เพราะเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องมาตอบถ้าท่านมีภารกิจที่สำคัญจริงๆ เราเคารพ แต่สถิติบอกว่าคือวิธีการที่ทำให้ฝ่ายค้านไม่ได้รับคำตอบและไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญได้เต็มที่ เราถือว่าสิ่งที่ท่านกำลังทำเป็นเจตนาที่ไม่สุจริต ดังนั้น หลังจากวันนี้ตนจะนำเรื่องนี้ยื่นสู่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และให้รู้กันไปว่าทุกครั้งที่เรายื่น และท่านไม่มาตอบเราจะยื่นเข้าสู่ป.ป.ช.ทุกครั้ง ตนไม่รู้ว่าผลของการที่ป.ป.ช. ดำเนินการจะเป็นอย่างไร แต่ตนถือว่าท่านได้ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดข้อบังคับการประชุม ท่านไม่เคารพต่อสภาฯ และใช้วิธีการนี้ด้อยค่าฝ่ายค้าน

ด้านนายภารดร ชี้แจงว่า เรื่องนี้ประธานสภาฯมีดำหริ และฝากรัฐมนตรีไปหลายรอบ รวมถึงฝากประธานวิปรัฐบาลไปให้ประสานงานกับทางคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเรื่องของการให้ความสำคัญกับสภาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวาระกระทู้ ทั้งกระทู้ทั่วไปปละกระทู้ถามสด วันนี้มีกระทู้ถามสดสามกระทู้ด้วยกัน รัฐมนตรีก็มาตอบถึง 2 กระทู้ และเท่าที่ตนอยู่สภาฯมาก็เห็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเห็นถึงการประสานงานของ สส.ฝ่ายค้านด้วยเช่นเดียวกันที่พยายามที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน โดยการที่จะประสานงานก่อน

“จริงๆทราบข่าวว่าประสานงานกันตั้งแต่ช่วงวันจันทร์แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกัน แต่ก็ต้องฝาก นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่มาเป็นตัวแทนครม. ขอฝากท่านกำชับ ครม.อีกครั้งว่าในวาระของกระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป รบกวนรัฐมนตรี ช่วยมาตอบกระทู้ด้วย หากไม่ติดภารกิจที่สำคัญจริงๆ ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสภาฯ เพราะนั่นคือการให้เกียรติพี่น้องประชาชนด้วย”นายภารดร กล่าว

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะวิปครม. ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ตนได้รับการประสานจากตัวแทนของวิปฝ่ายค้าน เรื่องประเด็นคำถามว่าจะเชิฐรัฐมนตรีท่านใดมาชี้แจงบ้าง แต่เนื่องจากกระทู้สดในวันนี้ถามถึงนายกฯ ซึ่งนยกฯได้มอบให้ รมว.ดิจิทัลฯ มาตอบแทน แต่เนื่องจากวันนี้ไปจนกระทั่งถึงวันที่ 18 ม.ค.นายประเสริฐ ต้องเป็นประธานในการประชุมของดิจิทัล ภาคพื้นเอเชีย ซึ่งเดิมแจ้งว่าจะขยับเวลาได้หรือไม่ ปรากฎว่าขยับเวลาไม่ได้ เนื่องจากต้องนั่งเป็นประธาน จึงขอว่าคำถามของนายรังสิมันต์ ขอให้ไปถามอาทิตย์ถัดไป ซึ่งนายประเสริฐจะมาตอบ

นางมนพร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเรื่องของนโยบายเกี่ยกวับคำถามที่นายรังสิมันต์ถาม ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ เนื่องจากการบูรณาการกระทรวงต่างๆ นายกฯก็เร่งรัดเรื่องเหล่านี้ และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

จากนั้นนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนเป็นคนประสานงานในทุกสัปดาห์ ดังนั้น ในความเห็นของตนคิดว่าความร่วมมือของครม.มีค่อนข้างน้อย และเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ชุดนี้ให้ความร่วมมือน้อยกว่าทั้งที่มีการประสานล่วงหน้า ซึ่งตนเห็นใจวิปรัฐบาล เห็นใจนางมนพร ไม่อยากให้แรงกดดันไปอยู่กับประธานวิปรัฐบาลหรือนางมนพร ขอยืนยันตามที่นายรังสิมันต์บอกว่าหลังจากนี้จะไม่มีการประสานล่วงหน้าเพราะถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีแต่ละท่านโดยตรง ขออภัยประธานวิปรัฐบาล และนางมนพร ที่ผ่านมาตนอาจจะทำให้ท่านได้รับแรงกดดันในการที่จะติดตามรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ หลังจากนี้ รู้กัน 8 โมงเช้า

ทำให้นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นอีกครั้งและกล่าวว่า ด้วยความเคารพต่อประธานและนางมนพร ตนเข้าใจว่าท่านได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้วจริงๆ เรื่องที่ตนถาม ตนก็พยายามช่วย เพราะถามหลายกระทรวง ท่านจะหยิบกระทรวงไหนก็ได้ หากคิดว่ากระทรวงดีอีไม่ว่าง ก็สามารถจะมอบหมายไปยังกระทรวงอื่นที่อาจจะว่างได้ ตนก็พยายามทำตรงนี้แล้ว แต่ในเมื่อวันนี้ไม่มีคนมาตอบ ตนคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่แล้ว กระทู้มีแค่ 3 กระทู้ และเป็นสิ่งเดียวที่ฝ่ายค้านมีในการตรวจสอบ ถ้าท่านยินดีที่จะเสียโควตาของท่าน ตนก็ยินดีที่จะไปถามในรอบหน้า ที่ผ่านมาตนก็อนุมานไปเองว่าคงไม่มีใครยอมใคร เมื่อเป็นเช่นนี้ตนก็ต้องเสียสิทธิ์ในการถาม แล้วจะให้ตนหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร การเลื่อนมันไม่ใช่การเลื่อน แต่เป็นการทำให้ตนถามต่อไปไม่ได้ สุดท้ายมันก็ต้องมีวาระอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน

“หากหาทางออกร่วมกันตรงนี้ได้ โดยรัฐบาลให้โควตาให้กับฝ่ายค้าน ผมก็ยินดี และขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฎหมายที่ผมเห็นว่าการที่ท่านไม่มาตอบคำถาม ซึ่งเป็นหน้าที่ของท่านตามรัฐธรรมนูญ ผมถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริตและน่าจะเข้าข่ายการละเมิดกฎหมาย” นายรังสิมันต์ กล่าว.312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

กัมพูชาห้ามผัก-ผลไม้ไทยผ่านช่องจอมวันแรก

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ กัมพูชาตรวจเข้มไม่ให้ผัก-ผลไม้ไทยเล็ดลอดแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนอย่างหนัก วอนทางการไทยตอบโต้สินค้าจากกัมพูชาที่เข้ามาโกยเงินคนไทยบ้าง เวลา 08.00 น. ได้เวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในฝั่งไทย ในห้วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดที่ลดเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ชาวกัมพูชาต่างเข้าแถวรอข้ามแดน พร้อมกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปรอรับส่งชาวกัมพูชาเที่ยวละ 20 บาท ที่เห็นต่อแถวยาวเหยียด เข้าคิวรอตั้งแต่เมื่อวานคือ รถบรรทุกที่จะเข้าไปซื้อมันสำปะหลังในฝั่งกัมพูชา คนกัมพูชาที่กลับประเทศวันนี้มีทั้งกลุ่มคนที่เข้าๆ ออกๆ ไปทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย และกลุ่มที่กลับไปตั้งหลักรอดูสถานการณ์ จึงเห็นสัมภาระจำพวกเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เน้นตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและจำพวกอุปกรณ์ก่อสร้างที่ห้ามนำออกราชอาณาจักรไทย แม้แต่ไฟโซลาร์เซลล์ก็ถูกยึดไว้ เมื่อผ่านจุดตรวจเพื่อความมั่นคงชายแดนของกองกำลังสุรนารีได้แล้ว อีกจุดคือด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เวลา 09.00 น. ประตูฝั่งกัมพูชาจึงจะเปิด ซึ่งพบว่ามีการตรวจเข้มตามนโยบายกดดันทางการไทย โดยประกาศชัดว่าจะไม่ให้นำผักผลไม้เข้าไปแม้แต่ชิ้นเดียว กรรมกรชาวกัมพูชาคนนี้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แวะซื้อเงาะและลองกองที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ไม่ทราบว่าทางการกัมพูชาจะเข้มงวดถึงขั้นห้ามนำไปกินในครอบครัว วันนี้ (18 […]