“โรม” ขู่ยื่น ป.ป.ช. หลัง รมต.ไม่มาตอบกระทู้ถามสด

รัฐสภา 16 ม.ค.- “โรม” โวย ไม่มีรมต.ตอบกระทู้ถามสด “แก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์” ขู่ ถ้าไม่มาอีกยื่นเรื่อง ป.ป.ช. ฐานไม่ทำตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ด้าน “ประธานวิปฝ่ายค้าน” ลั่นไม่มีประสานล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ “ภราดร” กำชับ “ครม.” ให้ความสำคัญฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะคือการให้เกียรติประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่2 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ถามนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) แต่นายประเสริฐ ขอเลื่อนกระทู้ดังกล่าวออกไปก่อน ประธานในที่ประชุมจึงให้นายรังสิมันต์อภิปรายได้

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า เรื่องที่ตนตั้งใจจะถาม เป็นเรื่องที่มีความสำคัญช่วงเวลาที่ผ่านมา คือเรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นปัญหาใหญ่กัดกินสังคมไทย และสังคมทั่วโลกมาเป็นเวลานาน และความเสียหายลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่ประชาชนทั่วไป แต่พบว่าคนที่มีความสำคัญกับบ้านเมืองแม้กระทั่งนายกฯ ที่พูดเองว่าเกือบจะเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าเรื่องนี้มีความสำคัญแน่นอนที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรจะได้รู้ ว่าตกลงแล้วรัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่เรื่องเงินในกระเป๋าของประชาชนที่ถูกดูดออกไป แต่ยังรวมไปถึงปัญหาการค้ามนุษย์ ที่นับวันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างรุนแรง เช่น กรณีนักแสดงจีน ซิงซิง ก็เริ่มมีข่าวออกมาเป็นระยะว่ามีนักท่องเที่ยวยกเลิกเข้ามาในประเทศไทย ตนตั้งใจที่จะถามเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกันหลายกระทรวง ซึ่งประธานวิปฝ่ายค้านได้ประสานล่วงหน้ากับวิปรัฐบาล เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ว่าเราจะมีการตั้งกระทู้ถามถึงนายกรัฐมนตรี และยังบอกถึงขนาดว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่สามารถมาตอบกระทู้นี้ได้ เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคยมาตอบ ท่านสามารถมอบกระทรวงมหาดไทย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กระทรวงดีอีเอส หรือกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ ซึ่งกระทรวงเหล่านี้ก็เกี่ยวกับการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ตามชายแดนของประเทศไทย

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันนี้ (16 ม.ค.) กลับไม่มีรัฐมนตรีคนไหนตอบ ท่านบอกว่าอาจจะเป็นเลื่อนตามข้อบังคับ 151 แต่ต้องไม่ลืมว่าข้อบังคับ 160 กำหนดว่ากระทู้ถามสดให้ถามได้โดยเวลารวมกัน 90 นาที หรือประมาณ 3 กระทู้ การเลื่อนนัยยะนี้เท่ากับว่ากระทู้ที่ตนได้ตั้ง ตกลงไป นั่นหมายความว่าสิทธิ์ของสมาชิกที่จะถามกระทู้ และเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่มาตอบตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงตามข้อบังคับ สิทธิ์นี้ไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป และจากสถิติฝ่ายค้านได้ถามกระทู้สดโดยยื่นไปแล้ว 20 กระทู้ ปรากฏว่ามีการมาตอบกระทู้นับตั้งแต่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเพียง 13 กระทู้ คิดเป็นแค่ประมาณ 65%

“วันนี้เราอยู่ในยุคสมัยที่การตอบกระทู้ของสมาชิกถูกละเลยความสำคัญขนาดนี้เลยหรือ พวกเราบอกล่วงหน้าท่านตั้งแต่วันจันทร์ จะเอากระทรวงไหนมาตอบเรายินดี เราทำถึงขนาดนี้ จากเดิมกระทู้สด ที่โดยปกติท่านจะรู้ล่วงหน้าคือ 08.00 น. ของวันที่มีการถาม เราบอกล่วงหน้ากันขนาดนี้ ตอนนี้กระทู้สดแทบจะไม่สด ท่านก็ไม่มาตอบเรา” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับตนพูดเรื่องนี้ด้วยความเหลืออด ตนได้หารือกับประธานวิปฝ่ายค้าน ว่า ต่อจากนี้ไปเราคงจะไม่บอกล่วงหน้ากันอีกแล้ว เพราะบอกล่วงหน้าไปสุดท้ายท่านก็ไม่ให้ความร่วมมือกับเราอยู่ดี ถ้าแบบนี้ เราจะใช้วิธีการตั้งตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้ว ที่เราไม่ได้มีการบอกล่วงหน้าว่าจะถามใคร พวกเรายังได้ความร่วมมือคิดว่าน่าจะมากกว่า ดังนั้น เราจะกลับไปใช้วิธีการแบบเดิมที่ปรากฏอยู่ในข้อบังคับการประชุมว่า 08.00 น. รู้กัน จะมาตอบหรือไม่ตอบก็ให้สังคมได้รู้ว่าท่านให้ความสำคัญกับสภาฯแห่งนี้อย่างไร หรือท่านให้ความสำคัญกับประเด็นที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างไร

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนถือว่าการที่ท่านไม่มาตอบ ไม่ได้เป็นการใช้สิทธิ์เลื่อนแบบทั่วไป เพราะเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องมาตอบถ้าท่านมีภารกิจที่สำคัญจริงๆ เราเคารพ แต่สถิติบอกว่าคือวิธีการที่ทำให้ฝ่ายค้านไม่ได้รับคำตอบและไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญได้เต็มที่ เราถือว่าสิ่งที่ท่านกำลังทำเป็นเจตนาที่ไม่สุจริต ดังนั้น หลังจากวันนี้ตนจะนำเรื่องนี้ยื่นสู่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และให้รู้กันไปว่าทุกครั้งที่เรายื่น และท่านไม่มาตอบเราจะยื่นเข้าสู่ป.ป.ช.ทุกครั้ง ตนไม่รู้ว่าผลของการที่ป.ป.ช. ดำเนินการจะเป็นอย่างไร แต่ตนถือว่าท่านได้ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดข้อบังคับการประชุม ท่านไม่เคารพต่อสภาฯ และใช้วิธีการนี้ด้อยค่าฝ่ายค้าน

ด้านนายภารดร ชี้แจงว่า เรื่องนี้ประธานสภาฯมีดำหริ และฝากรัฐมนตรีไปหลายรอบ รวมถึงฝากประธานวิปรัฐบาลไปให้ประสานงานกับทางคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเรื่องของการให้ความสำคัญกับสภาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวาระกระทู้ ทั้งกระทู้ทั่วไปปละกระทู้ถามสด วันนี้มีกระทู้ถามสดสามกระทู้ด้วยกัน รัฐมนตรีก็มาตอบถึง 2 กระทู้ และเท่าที่ตนอยู่สภาฯมาก็เห็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเห็นถึงการประสานงานของ สส.ฝ่ายค้านด้วยเช่นเดียวกันที่พยายามที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน โดยการที่จะประสานงานก่อน

“จริงๆทราบข่าวว่าประสานงานกันตั้งแต่ช่วงวันจันทร์แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกัน แต่ก็ต้องฝาก นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่มาเป็นตัวแทนครม. ขอฝากท่านกำชับ ครม.อีกครั้งว่าในวาระของกระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป รบกวนรัฐมนตรี ช่วยมาตอบกระทู้ด้วย หากไม่ติดภารกิจที่สำคัญจริงๆ ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสภาฯ เพราะนั่นคือการให้เกียรติพี่น้องประชาชนด้วย”นายภารดร กล่าว

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะวิปครม. ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ตนได้รับการประสานจากตัวแทนของวิปฝ่ายค้าน เรื่องประเด็นคำถามว่าจะเชิฐรัฐมนตรีท่านใดมาชี้แจงบ้าง แต่เนื่องจากกระทู้สดในวันนี้ถามถึงนายกฯ ซึ่งนยกฯได้มอบให้ รมว.ดิจิทัลฯ มาตอบแทน แต่เนื่องจากวันนี้ไปจนกระทั่งถึงวันที่ 18 ม.ค.นายประเสริฐ ต้องเป็นประธานในการประชุมของดิจิทัล ภาคพื้นเอเชีย ซึ่งเดิมแจ้งว่าจะขยับเวลาได้หรือไม่ ปรากฎว่าขยับเวลาไม่ได้ เนื่องจากต้องนั่งเป็นประธาน จึงขอว่าคำถามของนายรังสิมันต์ ขอให้ไปถามอาทิตย์ถัดไป ซึ่งนายประเสริฐจะมาตอบ

นางมนพร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเรื่องของนโยบายเกี่ยกวับคำถามที่นายรังสิมันต์ถาม ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ เนื่องจากการบูรณาการกระทรวงต่างๆ นายกฯก็เร่งรัดเรื่องเหล่านี้ และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

จากนั้นนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนเป็นคนประสานงานในทุกสัปดาห์ ดังนั้น ในความเห็นของตนคิดว่าความร่วมมือของครม.มีค่อนข้างน้อย และเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ชุดนี้ให้ความร่วมมือน้อยกว่าทั้งที่มีการประสานล่วงหน้า ซึ่งตนเห็นใจวิปรัฐบาล เห็นใจนางมนพร ไม่อยากให้แรงกดดันไปอยู่กับประธานวิปรัฐบาลหรือนางมนพร ขอยืนยันตามที่นายรังสิมันต์บอกว่าหลังจากนี้จะไม่มีการประสานล่วงหน้าเพราะถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีแต่ละท่านโดยตรง ขออภัยประธานวิปรัฐบาล และนางมนพร ที่ผ่านมาตนอาจจะทำให้ท่านได้รับแรงกดดันในการที่จะติดตามรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ หลังจากนี้ รู้กัน 8 โมงเช้า

ทำให้นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นอีกครั้งและกล่าวว่า ด้วยความเคารพต่อประธานและนางมนพร ตนเข้าใจว่าท่านได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้วจริงๆ เรื่องที่ตนถาม ตนก็พยายามช่วย เพราะถามหลายกระทรวง ท่านจะหยิบกระทรวงไหนก็ได้ หากคิดว่ากระทรวงดีอีไม่ว่าง ก็สามารถจะมอบหมายไปยังกระทรวงอื่นที่อาจจะว่างได้ ตนก็พยายามทำตรงนี้แล้ว แต่ในเมื่อวันนี้ไม่มีคนมาตอบ ตนคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่แล้ว กระทู้มีแค่ 3 กระทู้ และเป็นสิ่งเดียวที่ฝ่ายค้านมีในการตรวจสอบ ถ้าท่านยินดีที่จะเสียโควตาของท่าน ตนก็ยินดีที่จะไปถามในรอบหน้า ที่ผ่านมาตนก็อนุมานไปเองว่าคงไม่มีใครยอมใคร เมื่อเป็นเช่นนี้ตนก็ต้องเสียสิทธิ์ในการถาม แล้วจะให้ตนหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร การเลื่อนมันไม่ใช่การเลื่อน แต่เป็นการทำให้ตนถามต่อไปไม่ได้ สุดท้ายมันก็ต้องมีวาระอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน

“หากหาทางออกร่วมกันตรงนี้ได้ โดยรัฐบาลให้โควตาให้กับฝ่ายค้าน ผมก็ยินดี และขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฎหมายที่ผมเห็นว่าการที่ท่านไม่มาตอบคำถาม ซึ่งเป็นหน้าที่ของท่านตามรัฐธรรมนูญ ผมถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริตและน่าจะเข้าข่ายการละเมิดกฎหมาย” นายรังสิมันต์ กล่าว.312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]