“โรม” ขู่ยื่น ป.ป.ช. หลัง รมต.ไม่มาตอบกระทู้ถามสด

รัฐสภา 16 ม.ค.- “โรม” โวย ไม่มีรมต.ตอบกระทู้ถามสด “แก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์” ขู่ ถ้าไม่มาอีกยื่นเรื่อง ป.ป.ช. ฐานไม่ทำตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ด้าน “ประธานวิปฝ่ายค้าน” ลั่นไม่มีประสานล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ “ภราดร” กำชับ “ครม.” ให้ความสำคัญฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะคือการให้เกียรติประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่2 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ถามนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) แต่นายประเสริฐ ขอเลื่อนกระทู้ดังกล่าวออกไปก่อน ประธานในที่ประชุมจึงให้นายรังสิมันต์อภิปรายได้

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า เรื่องที่ตนตั้งใจจะถาม เป็นเรื่องที่มีความสำคัญช่วงเวลาที่ผ่านมา คือเรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นปัญหาใหญ่กัดกินสังคมไทย และสังคมทั่วโลกมาเป็นเวลานาน และความเสียหายลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่ประชาชนทั่วไป แต่พบว่าคนที่มีความสำคัญกับบ้านเมืองแม้กระทั่งนายกฯ ที่พูดเองว่าเกือบจะเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าเรื่องนี้มีความสำคัญแน่นอนที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรจะได้รู้ ว่าตกลงแล้วรัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่เรื่องเงินในกระเป๋าของประชาชนที่ถูกดูดออกไป แต่ยังรวมไปถึงปัญหาการค้ามนุษย์ ที่นับวันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างรุนแรง เช่น กรณีนักแสดงจีน ซิงซิง ก็เริ่มมีข่าวออกมาเป็นระยะว่ามีนักท่องเที่ยวยกเลิกเข้ามาในประเทศไทย ตนตั้งใจที่จะถามเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกันหลายกระทรวง ซึ่งประธานวิปฝ่ายค้านได้ประสานล่วงหน้ากับวิปรัฐบาล เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ว่าเราจะมีการตั้งกระทู้ถามถึงนายกรัฐมนตรี และยังบอกถึงขนาดว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่สามารถมาตอบกระทู้นี้ได้ เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคยมาตอบ ท่านสามารถมอบกระทรวงมหาดไทย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กระทรวงดีอีเอส หรือกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ ซึ่งกระทรวงเหล่านี้ก็เกี่ยวกับการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ตามชายแดนของประเทศไทย

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันนี้ (16 ม.ค.) กลับไม่มีรัฐมนตรีคนไหนตอบ ท่านบอกว่าอาจจะเป็นเลื่อนตามข้อบังคับ 151 แต่ต้องไม่ลืมว่าข้อบังคับ 160 กำหนดว่ากระทู้ถามสดให้ถามได้โดยเวลารวมกัน 90 นาที หรือประมาณ 3 กระทู้ การเลื่อนนัยยะนี้เท่ากับว่ากระทู้ที่ตนได้ตั้ง ตกลงไป นั่นหมายความว่าสิทธิ์ของสมาชิกที่จะถามกระทู้ และเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่มาตอบตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงตามข้อบังคับ สิทธิ์นี้ไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป และจากสถิติฝ่ายค้านได้ถามกระทู้สดโดยยื่นไปแล้ว 20 กระทู้ ปรากฏว่ามีการมาตอบกระทู้นับตั้งแต่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเพียง 13 กระทู้ คิดเป็นแค่ประมาณ 65%

“วันนี้เราอยู่ในยุคสมัยที่การตอบกระทู้ของสมาชิกถูกละเลยความสำคัญขนาดนี้เลยหรือ พวกเราบอกล่วงหน้าท่านตั้งแต่วันจันทร์ จะเอากระทรวงไหนมาตอบเรายินดี เราทำถึงขนาดนี้ จากเดิมกระทู้สด ที่โดยปกติท่านจะรู้ล่วงหน้าคือ 08.00 น. ของวันที่มีการถาม เราบอกล่วงหน้ากันขนาดนี้ ตอนนี้กระทู้สดแทบจะไม่สด ท่านก็ไม่มาตอบเรา” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับตนพูดเรื่องนี้ด้วยความเหลืออด ตนได้หารือกับประธานวิปฝ่ายค้าน ว่า ต่อจากนี้ไปเราคงจะไม่บอกล่วงหน้ากันอีกแล้ว เพราะบอกล่วงหน้าไปสุดท้ายท่านก็ไม่ให้ความร่วมมือกับเราอยู่ดี ถ้าแบบนี้ เราจะใช้วิธีการตั้งตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้ว ที่เราไม่ได้มีการบอกล่วงหน้าว่าจะถามใคร พวกเรายังได้ความร่วมมือคิดว่าน่าจะมากกว่า ดังนั้น เราจะกลับไปใช้วิธีการแบบเดิมที่ปรากฏอยู่ในข้อบังคับการประชุมว่า 08.00 น. รู้กัน จะมาตอบหรือไม่ตอบก็ให้สังคมได้รู้ว่าท่านให้ความสำคัญกับสภาฯแห่งนี้อย่างไร หรือท่านให้ความสำคัญกับประเด็นที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างไร

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนถือว่าการที่ท่านไม่มาตอบ ไม่ได้เป็นการใช้สิทธิ์เลื่อนแบบทั่วไป เพราะเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องมาตอบถ้าท่านมีภารกิจที่สำคัญจริงๆ เราเคารพ แต่สถิติบอกว่าคือวิธีการที่ทำให้ฝ่ายค้านไม่ได้รับคำตอบและไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญได้เต็มที่ เราถือว่าสิ่งที่ท่านกำลังทำเป็นเจตนาที่ไม่สุจริต ดังนั้น หลังจากวันนี้ตนจะนำเรื่องนี้ยื่นสู่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และให้รู้กันไปว่าทุกครั้งที่เรายื่น และท่านไม่มาตอบเราจะยื่นเข้าสู่ป.ป.ช.ทุกครั้ง ตนไม่รู้ว่าผลของการที่ป.ป.ช. ดำเนินการจะเป็นอย่างไร แต่ตนถือว่าท่านได้ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดข้อบังคับการประชุม ท่านไม่เคารพต่อสภาฯ และใช้วิธีการนี้ด้อยค่าฝ่ายค้าน

ด้านนายภารดร ชี้แจงว่า เรื่องนี้ประธานสภาฯมีดำหริ และฝากรัฐมนตรีไปหลายรอบ รวมถึงฝากประธานวิปรัฐบาลไปให้ประสานงานกับทางคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเรื่องของการให้ความสำคัญกับสภาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวาระกระทู้ ทั้งกระทู้ทั่วไปปละกระทู้ถามสด วันนี้มีกระทู้ถามสดสามกระทู้ด้วยกัน รัฐมนตรีก็มาตอบถึง 2 กระทู้ และเท่าที่ตนอยู่สภาฯมาก็เห็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเห็นถึงการประสานงานของ สส.ฝ่ายค้านด้วยเช่นเดียวกันที่พยายามที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน โดยการที่จะประสานงานก่อน

“จริงๆทราบข่าวว่าประสานงานกันตั้งแต่ช่วงวันจันทร์แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกัน แต่ก็ต้องฝาก นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่มาเป็นตัวแทนครม. ขอฝากท่านกำชับ ครม.อีกครั้งว่าในวาระของกระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป รบกวนรัฐมนตรี ช่วยมาตอบกระทู้ด้วย หากไม่ติดภารกิจที่สำคัญจริงๆ ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสภาฯ เพราะนั่นคือการให้เกียรติพี่น้องประชาชนด้วย”นายภารดร กล่าว

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะวิปครม. ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ตนได้รับการประสานจากตัวแทนของวิปฝ่ายค้าน เรื่องประเด็นคำถามว่าจะเชิฐรัฐมนตรีท่านใดมาชี้แจงบ้าง แต่เนื่องจากกระทู้สดในวันนี้ถามถึงนายกฯ ซึ่งนยกฯได้มอบให้ รมว.ดิจิทัลฯ มาตอบแทน แต่เนื่องจากวันนี้ไปจนกระทั่งถึงวันที่ 18 ม.ค.นายประเสริฐ ต้องเป็นประธานในการประชุมของดิจิทัล ภาคพื้นเอเชีย ซึ่งเดิมแจ้งว่าจะขยับเวลาได้หรือไม่ ปรากฎว่าขยับเวลาไม่ได้ เนื่องจากต้องนั่งเป็นประธาน จึงขอว่าคำถามของนายรังสิมันต์ ขอให้ไปถามอาทิตย์ถัดไป ซึ่งนายประเสริฐจะมาตอบ

นางมนพร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเรื่องของนโยบายเกี่ยกวับคำถามที่นายรังสิมันต์ถาม ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ เนื่องจากการบูรณาการกระทรวงต่างๆ นายกฯก็เร่งรัดเรื่องเหล่านี้ และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

จากนั้นนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนเป็นคนประสานงานในทุกสัปดาห์ ดังนั้น ในความเห็นของตนคิดว่าความร่วมมือของครม.มีค่อนข้างน้อย และเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ชุดนี้ให้ความร่วมมือน้อยกว่าทั้งที่มีการประสานล่วงหน้า ซึ่งตนเห็นใจวิปรัฐบาล เห็นใจนางมนพร ไม่อยากให้แรงกดดันไปอยู่กับประธานวิปรัฐบาลหรือนางมนพร ขอยืนยันตามที่นายรังสิมันต์บอกว่าหลังจากนี้จะไม่มีการประสานล่วงหน้าเพราะถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีแต่ละท่านโดยตรง ขออภัยประธานวิปรัฐบาล และนางมนพร ที่ผ่านมาตนอาจจะทำให้ท่านได้รับแรงกดดันในการที่จะติดตามรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ หลังจากนี้ รู้กัน 8 โมงเช้า

ทำให้นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นอีกครั้งและกล่าวว่า ด้วยความเคารพต่อประธานและนางมนพร ตนเข้าใจว่าท่านได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้วจริงๆ เรื่องที่ตนถาม ตนก็พยายามช่วย เพราะถามหลายกระทรวง ท่านจะหยิบกระทรวงไหนก็ได้ หากคิดว่ากระทรวงดีอีไม่ว่าง ก็สามารถจะมอบหมายไปยังกระทรวงอื่นที่อาจจะว่างได้ ตนก็พยายามทำตรงนี้แล้ว แต่ในเมื่อวันนี้ไม่มีคนมาตอบ ตนคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่แล้ว กระทู้มีแค่ 3 กระทู้ และเป็นสิ่งเดียวที่ฝ่ายค้านมีในการตรวจสอบ ถ้าท่านยินดีที่จะเสียโควตาของท่าน ตนก็ยินดีที่จะไปถามในรอบหน้า ที่ผ่านมาตนก็อนุมานไปเองว่าคงไม่มีใครยอมใคร เมื่อเป็นเช่นนี้ตนก็ต้องเสียสิทธิ์ในการถาม แล้วจะให้ตนหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร การเลื่อนมันไม่ใช่การเลื่อน แต่เป็นการทำให้ตนถามต่อไปไม่ได้ สุดท้ายมันก็ต้องมีวาระอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน

“หากหาทางออกร่วมกันตรงนี้ได้ โดยรัฐบาลให้โควตาให้กับฝ่ายค้าน ผมก็ยินดี และขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฎหมายที่ผมเห็นว่าการที่ท่านไม่มาตอบคำถาม ซึ่งเป็นหน้าที่ของท่านตามรัฐธรรมนูญ ผมถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริตและน่าจะเข้าข่ายการละเมิดกฎหมาย” นายรังสิมันต์ กล่าว.312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย