“โรม” ขู่ยื่น ป.ป.ช. หลัง รมต.ไม่มาตอบกระทู้ถามสด

รัฐสภา 16 ม.ค.- “โรม” โวย ไม่มีรมต.ตอบกระทู้ถามสด “แก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์” ขู่ ถ้าไม่มาอีกยื่นเรื่อง ป.ป.ช. ฐานไม่ทำตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ด้าน “ประธานวิปฝ่ายค้าน” ลั่นไม่มีประสานล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ “ภราดร” กำชับ “ครม.” ให้ความสำคัญฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะคือการให้เกียรติประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่2 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ถามนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) แต่นายประเสริฐ ขอเลื่อนกระทู้ดังกล่าวออกไปก่อน ประธานในที่ประชุมจึงให้นายรังสิมันต์อภิปรายได้

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า เรื่องที่ตนตั้งใจจะถาม เป็นเรื่องที่มีความสำคัญช่วงเวลาที่ผ่านมา คือเรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นปัญหาใหญ่กัดกินสังคมไทย และสังคมทั่วโลกมาเป็นเวลานาน และความเสียหายลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่ประชาชนทั่วไป แต่พบว่าคนที่มีความสำคัญกับบ้านเมืองแม้กระทั่งนายกฯ ที่พูดเองว่าเกือบจะเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าเรื่องนี้มีความสำคัญแน่นอนที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรจะได้รู้ ว่าตกลงแล้วรัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่เรื่องเงินในกระเป๋าของประชาชนที่ถูกดูดออกไป แต่ยังรวมไปถึงปัญหาการค้ามนุษย์ ที่นับวันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างรุนแรง เช่น กรณีนักแสดงจีน ซิงซิง ก็เริ่มมีข่าวออกมาเป็นระยะว่ามีนักท่องเที่ยวยกเลิกเข้ามาในประเทศไทย ตนตั้งใจที่จะถามเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกันหลายกระทรวง ซึ่งประธานวิปฝ่ายค้านได้ประสานล่วงหน้ากับวิปรัฐบาล เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ว่าเราจะมีการตั้งกระทู้ถามถึงนายกรัฐมนตรี และยังบอกถึงขนาดว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่สามารถมาตอบกระทู้นี้ได้ เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคยมาตอบ ท่านสามารถมอบกระทรวงมหาดไทย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กระทรวงดีอีเอส หรือกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ ซึ่งกระทรวงเหล่านี้ก็เกี่ยวกับการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ตามชายแดนของประเทศไทย

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันนี้ (16 ม.ค.) กลับไม่มีรัฐมนตรีคนไหนตอบ ท่านบอกว่าอาจจะเป็นเลื่อนตามข้อบังคับ 151 แต่ต้องไม่ลืมว่าข้อบังคับ 160 กำหนดว่ากระทู้ถามสดให้ถามได้โดยเวลารวมกัน 90 นาที หรือประมาณ 3 กระทู้ การเลื่อนนัยยะนี้เท่ากับว่ากระทู้ที่ตนได้ตั้ง ตกลงไป นั่นหมายความว่าสิทธิ์ของสมาชิกที่จะถามกระทู้ และเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่มาตอบตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงตามข้อบังคับ สิทธิ์นี้ไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป และจากสถิติฝ่ายค้านได้ถามกระทู้สดโดยยื่นไปแล้ว 20 กระทู้ ปรากฏว่ามีการมาตอบกระทู้นับตั้งแต่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเพียง 13 กระทู้ คิดเป็นแค่ประมาณ 65%

“วันนี้เราอยู่ในยุคสมัยที่การตอบกระทู้ของสมาชิกถูกละเลยความสำคัญขนาดนี้เลยหรือ พวกเราบอกล่วงหน้าท่านตั้งแต่วันจันทร์ จะเอากระทรวงไหนมาตอบเรายินดี เราทำถึงขนาดนี้ จากเดิมกระทู้สด ที่โดยปกติท่านจะรู้ล่วงหน้าคือ 08.00 น. ของวันที่มีการถาม เราบอกล่วงหน้ากันขนาดนี้ ตอนนี้กระทู้สดแทบจะไม่สด ท่านก็ไม่มาตอบเรา” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับตนพูดเรื่องนี้ด้วยความเหลืออด ตนได้หารือกับประธานวิปฝ่ายค้าน ว่า ต่อจากนี้ไปเราคงจะไม่บอกล่วงหน้ากันอีกแล้ว เพราะบอกล่วงหน้าไปสุดท้ายท่านก็ไม่ให้ความร่วมมือกับเราอยู่ดี ถ้าแบบนี้ เราจะใช้วิธีการตั้งตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้ว ที่เราไม่ได้มีการบอกล่วงหน้าว่าจะถามใคร พวกเรายังได้ความร่วมมือคิดว่าน่าจะมากกว่า ดังนั้น เราจะกลับไปใช้วิธีการแบบเดิมที่ปรากฏอยู่ในข้อบังคับการประชุมว่า 08.00 น. รู้กัน จะมาตอบหรือไม่ตอบก็ให้สังคมได้รู้ว่าท่านให้ความสำคัญกับสภาฯแห่งนี้อย่างไร หรือท่านให้ความสำคัญกับประเด็นที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างไร

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนถือว่าการที่ท่านไม่มาตอบ ไม่ได้เป็นการใช้สิทธิ์เลื่อนแบบทั่วไป เพราะเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องมาตอบถ้าท่านมีภารกิจที่สำคัญจริงๆ เราเคารพ แต่สถิติบอกว่าคือวิธีการที่ทำให้ฝ่ายค้านไม่ได้รับคำตอบและไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญได้เต็มที่ เราถือว่าสิ่งที่ท่านกำลังทำเป็นเจตนาที่ไม่สุจริต ดังนั้น หลังจากวันนี้ตนจะนำเรื่องนี้ยื่นสู่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และให้รู้กันไปว่าทุกครั้งที่เรายื่น และท่านไม่มาตอบเราจะยื่นเข้าสู่ป.ป.ช.ทุกครั้ง ตนไม่รู้ว่าผลของการที่ป.ป.ช. ดำเนินการจะเป็นอย่างไร แต่ตนถือว่าท่านได้ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดข้อบังคับการประชุม ท่านไม่เคารพต่อสภาฯ และใช้วิธีการนี้ด้อยค่าฝ่ายค้าน

ด้านนายภารดร ชี้แจงว่า เรื่องนี้ประธานสภาฯมีดำหริ และฝากรัฐมนตรีไปหลายรอบ รวมถึงฝากประธานวิปรัฐบาลไปให้ประสานงานกับทางคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเรื่องของการให้ความสำคัญกับสภาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวาระกระทู้ ทั้งกระทู้ทั่วไปปละกระทู้ถามสด วันนี้มีกระทู้ถามสดสามกระทู้ด้วยกัน รัฐมนตรีก็มาตอบถึง 2 กระทู้ และเท่าที่ตนอยู่สภาฯมาก็เห็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเห็นถึงการประสานงานของ สส.ฝ่ายค้านด้วยเช่นเดียวกันที่พยายามที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน โดยการที่จะประสานงานก่อน

“จริงๆทราบข่าวว่าประสานงานกันตั้งแต่ช่วงวันจันทร์แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกัน แต่ก็ต้องฝาก นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่มาเป็นตัวแทนครม. ขอฝากท่านกำชับ ครม.อีกครั้งว่าในวาระของกระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป รบกวนรัฐมนตรี ช่วยมาตอบกระทู้ด้วย หากไม่ติดภารกิจที่สำคัญจริงๆ ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสภาฯ เพราะนั่นคือการให้เกียรติพี่น้องประชาชนด้วย”นายภารดร กล่าว

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะวิปครม. ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ตนได้รับการประสานจากตัวแทนของวิปฝ่ายค้าน เรื่องประเด็นคำถามว่าจะเชิฐรัฐมนตรีท่านใดมาชี้แจงบ้าง แต่เนื่องจากกระทู้สดในวันนี้ถามถึงนายกฯ ซึ่งนยกฯได้มอบให้ รมว.ดิจิทัลฯ มาตอบแทน แต่เนื่องจากวันนี้ไปจนกระทั่งถึงวันที่ 18 ม.ค.นายประเสริฐ ต้องเป็นประธานในการประชุมของดิจิทัล ภาคพื้นเอเชีย ซึ่งเดิมแจ้งว่าจะขยับเวลาได้หรือไม่ ปรากฎว่าขยับเวลาไม่ได้ เนื่องจากต้องนั่งเป็นประธาน จึงขอว่าคำถามของนายรังสิมันต์ ขอให้ไปถามอาทิตย์ถัดไป ซึ่งนายประเสริฐจะมาตอบ

นางมนพร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเรื่องของนโยบายเกี่ยกวับคำถามที่นายรังสิมันต์ถาม ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ เนื่องจากการบูรณาการกระทรวงต่างๆ นายกฯก็เร่งรัดเรื่องเหล่านี้ และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

จากนั้นนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนเป็นคนประสานงานในทุกสัปดาห์ ดังนั้น ในความเห็นของตนคิดว่าความร่วมมือของครม.มีค่อนข้างน้อย และเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ชุดนี้ให้ความร่วมมือน้อยกว่าทั้งที่มีการประสานล่วงหน้า ซึ่งตนเห็นใจวิปรัฐบาล เห็นใจนางมนพร ไม่อยากให้แรงกดดันไปอยู่กับประธานวิปรัฐบาลหรือนางมนพร ขอยืนยันตามที่นายรังสิมันต์บอกว่าหลังจากนี้จะไม่มีการประสานล่วงหน้าเพราะถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีแต่ละท่านโดยตรง ขออภัยประธานวิปรัฐบาล และนางมนพร ที่ผ่านมาตนอาจจะทำให้ท่านได้รับแรงกดดันในการที่จะติดตามรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ หลังจากนี้ รู้กัน 8 โมงเช้า

ทำให้นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นอีกครั้งและกล่าวว่า ด้วยความเคารพต่อประธานและนางมนพร ตนเข้าใจว่าท่านได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้วจริงๆ เรื่องที่ตนถาม ตนก็พยายามช่วย เพราะถามหลายกระทรวง ท่านจะหยิบกระทรวงไหนก็ได้ หากคิดว่ากระทรวงดีอีไม่ว่าง ก็สามารถจะมอบหมายไปยังกระทรวงอื่นที่อาจจะว่างได้ ตนก็พยายามทำตรงนี้แล้ว แต่ในเมื่อวันนี้ไม่มีคนมาตอบ ตนคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่แล้ว กระทู้มีแค่ 3 กระทู้ และเป็นสิ่งเดียวที่ฝ่ายค้านมีในการตรวจสอบ ถ้าท่านยินดีที่จะเสียโควตาของท่าน ตนก็ยินดีที่จะไปถามในรอบหน้า ที่ผ่านมาตนก็อนุมานไปเองว่าคงไม่มีใครยอมใคร เมื่อเป็นเช่นนี้ตนก็ต้องเสียสิทธิ์ในการถาม แล้วจะให้ตนหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร การเลื่อนมันไม่ใช่การเลื่อน แต่เป็นการทำให้ตนถามต่อไปไม่ได้ สุดท้ายมันก็ต้องมีวาระอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน

“หากหาทางออกร่วมกันตรงนี้ได้ โดยรัฐบาลให้โควตาให้กับฝ่ายค้าน ผมก็ยินดี และขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฎหมายที่ผมเห็นว่าการที่ท่านไม่มาตอบคำถาม ซึ่งเป็นหน้าที่ของท่านตามรัฐธรรมนูญ ผมถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริตและน่าจะเข้าข่ายการละเมิดกฎหมาย” นายรังสิมันต์ กล่าว.312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]