ป.ป.ช.ติดตามเก็บค่าอุทยานฯ หาดเจ้าไหม เกาะกระดาน-ถ้ำมรกต

ตรัง 6 ก.พ.- ป.ป.ช. ลุยติดตามเก็บค่าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เกาะกระดาน-ถ้ำมรกต ป้องปรามการจัดเก็บไม่รั่วไหล เจ้าหน้าที่ยอมรับมีเรือนำเที่ยวลักไก่ไม่จ่าย ส่งทีมตระเวนรอบพื้นที่ เตรียมขยายจุดตั้งโป๊ะเก็บรายได้ถ้ำมรกต


นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นำคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พื้นที่ถ้ำมรกต และเกาะกระดาน อำเภอกันตังจังหวัดตรัง เพื่อติดตามความคืบหน้าเก็บการจัดเก็บรายได้ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งจุดแรกไปดูการจัดเก็บรายได้หน้าถ้ำมรกต โดยใช้เรือเป็นด่านลอยจัดเก็บค่าเข้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ พบว่าเป็นการขายบัตรและจัดเก็บเงินสด ไม่มีการจัดเก็บแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-ticket และยังไม่สามารถชำระเงินผ่านการสแกน QR code ได้เนื่องจากไม่มีระเบียบรองรับ

ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานที่ทำหน้าที่จัดเก็บรายได้ยอมรับว่าหากมีระบบ e-ticket หรือระบบสแกน QR code ชำระเงินจะสะดวกและเกิดความปลอดภัยในการจัดเก็บเงินค่าเข้า เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่นิยมพกเงินสด ขณะนี้มีการจัดเก็บโดยถือกล่องพลาสติกสำหรับใส่เงินสด สามารถจัดเก็บรายได้วันละ 50,000 บาท ราคานักท่องเที่ยวที่จัดเก็บโดยนักท่องเที่ยวคนไทย จัดเก็บอยู่ที่ 40 บาท แต่เด็กจัดเก็บ 20 บาท และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เด็ก เก็บ 100 บาท ผู้ใหญ่จัดเก็บค่าเข้าอยู่ที่ 200 บาท โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีอุปสรรคในการจัดเก็บ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีการศึกษารายละเอียดมาก่อนหน้านี้แล้ว ยกเว้นกรณีมีคลื่นลม สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จะเป็นปัญหาเพราะเป็นการจัดเก็บบนพื้นน้ำทะเล


สำหรับค่าเข้าชมในการจัดเก็บจะมีการตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยว เมื่อเรือท่องเที่ยวมาจอด เจ้าหน้าที่ก็จะขึ้นไปบนเรือนับจำนวนนักท่องเที่ยวและจัดเก็บค่าเข้าสถานที่เป็นรายบุคคล จะไม่มีการจัดเก็บผ่านไกด์นำเที่ยวเหมือนจุดอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจัดเก็บไม่ครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะจอดเรือลอยลำรอจัดเก็บตลอดทั้งวัน จากนั้นจะมีการนำเงินมารวมกับกับจุดจัดเก็บบนพื้นที่เกาะกระดาน ก่อนนำส่งรายได้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

ด้านเลขาธิการ ป.ป.ช. มองว่าการจัดเก็บแบบใช้คิวอาร์โค้ด กรมอุทยานฯสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย เพียงแต่ต้องใช้ระบบวิธีบริหารจัดการ ซึ่ง ป.ป.ช.เคยเสนอมาตรการไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้เสนอไปยังหน่วยงานให้ดำเนินการตามที่ ป.ป.ช.เสนอ เพียงแต่ยังติดอุปสรรคในเรื่องเทคโนโลยี และงบประมาณ ขณะนี้หน่วยงานกำลังดำเนินการ ซึ่งการใช้ QR code ในการเก็บรายได้ทำให้สะดวก ทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องมานั่งนับเงินและเก็บสด

เมื่อถามว่าจะมีระบบการตรวจสอบการจัดเก็บเงินในแต่ละจุดแบบภาคเอกชนที่มีหน่วยงานจะเป็นไปได้หรือไม่ เลขา ป.ป.ช.ระบุว่ากรณีนี้มี สตง.ดำเนินการสุ่มตรวจอยู่แล้ว ซึ่งป.ป.ช.จะประสานให้สุ่มตรวจเป็นประจำทุกปีต่อไป


ขณะเดียวกันก็พยายามสอบถามกรณีนักท่องเที่ยวไม่มีเงินสด สามารถโอนจ่ายผ่านเจ้าหน้าที่และให้เจ้าหน้าที่ชำระเป็นเงินสดแทนได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าหากมีความจำเป็นก็สามารถดำเนินการได้ แต่จะมีปัญหาเนื่องจากเคยมีกรณีร้องเรียนและมีการตรวจสอบ อาจส่งผลปัญหาเรื่องเส้นทางการเงิน ซึ่งจะเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่โดยตรง

จากนั้น ป.ป.ช. ลงพื้นที่ติดตามการจัดเก็บรายได้ พื้นที่เกาะกระดาน โดยได้สอบถามวิธีการจัดเก็บกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณซุ้มจัดเก็บรายได้ พบว่าการจัดเก็บมีลักษณะเช่นเดียวกัน มีการขายบัตร ใช้กล่องพลาสติกสำหรับเก็บเงินรายได้

โดยเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้กับบัตรค่าเข้าชมก็จะนำมาเปรียบเทียบกันซึ่งจะสัมพันธ์กับรายได้ที่จัดเก็บ แต่ก็ยอมรับว่ามีเรือนำเที่ยวที่ลักไก่ ไม่ผ่านจุดชำระเงิน ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมากับกรุ๊ปทัวร์ หรือพักรีสอร์ท โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตระเวรตรวจตรา หากพบไม่ชำระ ก็จะให้ชำระให้ถูกต้อง

นายปทุม พงศกรเฟื่องฟู หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับการจัดเก็บค่าเข้าอุทยานหาดเจ้าไหมจะมีจุดจัดเก็บอยู่ 5 จุด คือที่สำนักงานท่าเรือปากเมง เกาะกระดาน หน้าถ้ำมรกต และหาดหยงหลิง ส่วนเกาะกระดานเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาก็จะมาเทียบเรือที่โป๊ะ และนักท่องเที่ยวจะเดินมาชำระค่าธรรมเนียมตรงบริเวณทางขึ้นอุทยาน ราคาคนไทยผู้ใหญ่ 40บาท เด็ก 20 บาท / ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ทั้งนี้สามารถชำระที่สำนักงานและท่าเรือปากเมง จากนั้นจะโชว์ค่าบัตรธรรมเนียมได้ที่เกาะกระดาน จะไม่ให้เกิดการจัดเก็บที่ซ้ำซ้อน

ส่วนกรณีถ้ำมรกตที่มีเจ้าหน้าที่ล่องเรือจัดเก็บค่าธรรมเนียมนั้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะได้รับแจ้งค่าธรรมเนียมจากบริษัททัวร์ จากนั้นจะออกไปรอและนับจำนวนนักท่องเที่ยว ว่าตรงกับจำนวนที่บริษัทจ่ายมาหรือไม่ ยอมรับว่าอาจจะมีพลาดบ้าง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ใช้เรือยางออกไปแค่ลำเดียว ถ้าเรือมาพร้อมกันหลายลำ บางครั้งการสื่อสารอาจมีอุปสรรค ประกอบกับสภาพอากาศคลื่นลม หากเจ้าหน้าที่มาช้า ก็จะไม่ทันนักท่องเที่ยวที่ออกเรือไปก่อนแล้ว ขณะเดียวกันก็พบกรณีเรือจากรีสอร์ท หากพบก็จะสามารถจัดเก็บได้ และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าชำระค่าธรรมเนียมแล้วหรือยัง

นายปทุม ยังกล่าวว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ e-ticket มีการดำเนินการไปในอุทยานแห่งชาติ 5 แห่งแล้ว แต่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนที่หลังจากนี้จะใช้ระบบสแกนหรือโอนเข้าบัญชีก็ขึ้นอยู่กับกรมอุทยานจะไปดำเนินการ ซึ่งจะต้องมีการปรับแก้ระเบียบก่อน ว่าจะดำเนินการได้อย่างไร แต่ตอนนี้ยังคงรับเงินสดอย่างเดียว

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หาดเจ้าไหม แก้ปัญหาเรือที่จะไม่จ่ายค่าธรรมเนียมด้วยการทำโป๊ะลอยน้ำ เพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียม โดยได้มีการขออนุมัติงบแล้วและจะดำเนินการได้ อยู่ระหว่างการจัดซื้อที่กรมและนำมาติดตั้งที่นี่ภายในปีนี้ ต่อไปเรือก็จะมาเทียบที่โต๊ะจัดเก็บค่าธรรมเนียมนี้แล้วไปจอดเรือด้านนอก ซึ่งจะแก้ปัญหาได้มาก ทั้งนี้ส่วนตัวก็เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนเป็นระบบ e-ticket เพื่อความสะดวกกับเจ้าหน้าที่และบริษัททัวร์ อย่างไรก็ตาม บริเวณเกาะกระดานและหน้าถ้ำมรกต จัดเก็บรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อวัน .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]