รร.พญาไท 10 พ.ค. – ศธ.ร่วมกับ สธ. ยันความพร้อม เปิดเทอม on-site วันที่ 17 พ.ค.นี้ ทุก รร. 100% ย้ำทำ รร.ให้ปลอดภัยมากกว่าอยู่ที่บ้าน ด้าน สธ.กาง 3 มาตรการเปิดออนไซด์ปลอดภัย วัคซีนครอบคลุม มีระบบคัดกรอง มีมาตรการรับหากพบผู้ติดเชื้อ
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศีกษาธิการ, ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ., นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.ศราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย ร่วมกันแถลงการเตรียมความพร้อมสู่การเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2565 ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ โดยงานจัดในรูปแบบเสวนา และมีการออกบูธที่ร่วมกับ องค์การค้าคุรุสภา “โครงการช้อปเพลิน ๆ รับเปิดเทอมกับ ศธ.” นำสินค้าทั้งชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ มาลดราคามากกว่า 50% จากร้านศึกษาภัณฑ์ ได้ทั้ง 7 สาขาใน กทม.และปริมณฑล เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง
“ตรีนุช” รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ.มีเป้าหมายเปิดเรียนแบบออนไซด์ด้วยการสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง รวมถึงชุมชน ด้วยหลักการ sandbox safety zone in school นร. ครู บุคลากร ปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อาทิ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100% ล้างมือ ตรวจหาเชื้อเมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง โดยจะมีระบบการศึกษาทุกรูปแบบ ในด้านความปลอดภัยเน้นย้ำให้สถานศึกษาทุกสังกัดเตรียมความพร้อมตามแนวทางเฝ้าระวัง สำหรับการเปิดเรียนออนไซด์ด้วยหลักการตัดความเสี่ยงสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งสถานศึกษาต้องทำการประเมินตนเองก่อนเปิดเรียนนักเรียนครูและบุคลากรประเมินความเสี่ยงเป็นประจำ
“ดร.สุภัทร” ปลัด ศธ.ระบุวันที่ 17 พ.ค.นี้ เป็นการเปิดเรียนทุกสถานศึกษา ทั้งหมดประมาณ 3.5 หมื่นแห่ง โดยเป็นการเปิด on-site 100% แต่หากบาง รร. ที่ผู้ปกครองกังวลก็จะมีระบบการสอนหลายรูปแบบรองรับ เผยบุคลาการการศึกษา ครู ที่มีจำนวนประมาณ 6.8 แสนคน ขณะนี้กว่า 97% ฉีดวัคซีนกระตุ้นมากกว่า 3 เข็มแล้ว เด็กอายุ 12-18 ปี ฉีดวัคซีนไปแล้ว 90% กลุ่มอายุ 5-11 ปี ฉีดไปแล้วประมาณ 50% ก็จะมีการเร่งดำเนินการต่อไป
ในกรณีที่มีการติดเชื้อในสถานศึกษาจะใช้วิธีปิดเฉพาะห้องเรียน ใช้เวลาทำความสะอาดไม่เกินครึ่งวันจะมีการทำงานที่เป็นระบบและเป็นขั้นตอนชัดเจนมากขึ้น ส่วน รร.ประจำมีมาตรการ school isolation และมีระบบการเรียนออนไลน์ เพื่อแยกกักนักเรียนที่มีความเสี่ยง หรือพบการติดเชื้อ ส่วน รร.สังกัด สพฐ.ได้เตรียมด้านกายภาพ ทำความสะอาด การจัดพื้นที่เว้นระยะห่าง ภายในสถานศึกษา การจัดกิจกรรม ยังคงเน้นทำเป็นกลุ่มเล็ก small bubble ส่วนบางห้องเรียนที่เรียนห้องแอร์นั้น ทุก 2 ชั่วโมง ให้ปิดแอร์เปิดหน้าต่างระบายอากาศเป็นช่วง ๆ
ด้าน “นพ.โอภาส” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แนวโน้มการติดเชื้อในไทยลดลงตามลำดับในเดือน พ.ค. เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะเปิดเรียนออนไซด์ให้ได้ ก่อนที่จะมีการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น คือต้องเปิดเรียนอย่างปลอดภัยให้ได้ก่อน ในมาตรการของ สธ. มี 3 ระดับ คือ 1.การฉีดวัคซีนบุคลากรการศึกษา เด็ก นร.ได้รับวัคซีน โดยในเด็กมัธยมได้เริ่มเข็ม 3 แล้ว ซึ่งเลือกแบบครึ่งโดสได้ ส่วนวัคซีนฝาสีส้มของเด็กประถมฉีดไปแล้วสองล้านกว่าคน มีประสิทธิภาพสูงและพบอาการแพ้น้อย แต่ก็มีทางเลือกวัคซีนเชื้อตาย สองเข็มก็ได้ มีประสิทธิภาพเช่นกัน อยู่ที่ความสมัครใจของผู้ปกครอง 2.มาตรการการคัดกรอง มีหลายระดับสำคัญดูที่อาการเป็นหลัก จึงจะตรวจหาเชื้อ 3.หากมีอาการป่วย สธ.มีนโยบาย 3 พอ หมอพอ เตียงพอ ยาพอ ยืนยันความพร้อมการเปิดเรียนออนไซด์ ปีนี้เข้าสู่ปีที่สามของโควิดเราเรียนรู้กับโรคนี้มามาก ที่ผ่านมาเจอเด็กติดจากบ้านมากกว่ามาติดที่ รร.จึงขอพ่อแม่คลายกังวล การแบ่งการดูแลในกลุ่ม นร.สัมผัสเสี่ยงสูง ถ้าไม่มีอาการ และ นร.ได้รับวัคซีนครบโดสมาแล้ว ก็สามารถมาเรียนได้ แต่ต้องเฝ้าระวังอาการ เว้นระยะห่าง และตรวจหาเชื้อเป็นระยะ. -สำนักข่าวไทย