fbpx

สธ.ยืนยันมีผู้ติดเชื้อโควิดมากขึ้น แต่ยังไม่มีนัยสำคัญ

สธ. 18 เม.ย. – สธ.แจงสถานการณ์โควิด ยอมรับติดเชื้อมากขึ้นแต่ยังไม่มีนัยสำคัญ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบคนใส่ท่อช่วยหายใจ สะสมไม่ถึง 20 คน ส่วน XBB.1.16 หลบภูมิ ติดง่าย เป็นเรื่องปกติของไวรัสกลายพันธุ์ และ WHO ยังให้เป็นสายพันธุ์เฝ้าระวัง ยันยารักษามีเพียงพอทุกชนิด และยังใช้ได้ปกติ บ่ายนี้เตรียมทำความเข้าใจกับแพทย์ และ 1 พ.ค.นี้ เตรียมฉีดวัคซีนโควิดคู่กับไข้หวัดใหญ่ เหมือนโรคประจำถิ่น 1 ปีฉีด 1 ครั้ง


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ว่า จากการรายงานของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าแม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่อาการไม่รุนแรง มีรักษาตัวใน รพ.น้อย โดยจำนวนผู้ใส่ท่อช่วยหายใจ ใน 12 เขตสุขภาพ มีสะสมไม่ถึง 20 คน และเสียชีวิตแค่ 2 คนเท่านั้น ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ผู้คนส่วนใหญ่ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น ทั้งนี้การเพิ่มจำนวนของผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการติดเชื้อที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

ส่วนการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ที่มีรายงานพบสายพันธุ์ XBB.1.16 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมโอไมครอนนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า เป็นธรรมดาของเชื้อไวรัสที่ต้องมีการพัฒนา และการกลายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่พบนี้ก็ยังเป็นโอไมครอนอยู่ ซึ่งทางห้องปฏิบัติการพบว่าไวรัสตัวนี้หลบภูมิกันติดง่าย แต่ก็ไม่ได้ติดง่ายกว่าตัวอื่น หรือรุนแรงกว่าตัวอื่น โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงจัดให้ไวรัสอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่ต้องติดตาม และไม่ได้อยู่ในสายพันธุ์เฝ้าระวัง และเชื้อไวรัสยังคงตอบสนองต่อยาเหมือนเดิม และสตอกยังคงมีเพียงพอ ไม่ว่าจะฟาวิพิราเวียร์, โมลนูพิราเวียร์ 1 ล้านเม็ด, เรมดีสซีเวียร์ 100,000 โดส (ใช้ฉีด), แพกซโลวิด ใช้เพียงพอ 10,000 คน และ LAAB ทั้งนี้การจะระบุว่าสถานการณ์การติดเชื้อรุนแรงขึ้นจะอยู่แค่ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไม่ได้ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ หรือผู้เสียชีวิต หรืออาการทางคลินิก


นพ.โอภาส กล่าวว่า เมื่อวานนี้ก็มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญ ได้ให้คำแนะนำเรื่อง การจ่ายยาต้านยาไวรัส ในกลุ่มเสี่ยง 608 ที่มีอาการ ส่วนคนทั่วไปที่มีอาการน้อยให้รักษาตามอาการ สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด เตรียมให้การฉีดให้รูปแบบของวัคซีนแบบประจำปี /ปีละ 1 ครั้ง ร่วมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉะนั้นการรับมือโควิด-19 จึงเหมือนกันโรคประจำถิ่น ซึ่งจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 คู่กับไข้หวัดใหญ่ทั่วประเทศ 1 พ.ค. นี้ เบื้องต้นเน้นในกลุ่มเสี่ยง 608 ก่อน ส่วนคนทั่วไปที่ตอนนี้กังวลกับสถานการณ์โควิด และใกล้เดือน พ.ค.แล้ว หากต้องการฉีดก็สามารถทำได้ เพียงแต่ระยะห่างของวัคซีน ควรห่างมากแล้ว 3 เดือน หรือป่วยหายแล้วมานาน 3 เดือนเช่นนั้น ทั้งนี้สถานการณ์การติดเชื้อโรคทางเดินหายใจพบว่า มีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากถึง 15% ส่วนโควิด 3 % เท่านั้น

นพ.โอภาส กล่าวว่า ทั้งนี้ในช่วงบ่าย กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกับแพทยสภา สื่อสารข้อมูลกับแพทย์ทั่วประเทศ ถึงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม หากคนที่ไปทำกิจกรรมช่วงสงกรานต์ต้องสังเกตตัวเอง งดใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 โดยการป้องกันโรคยังใช้ชุดความรู้เดิม สวมหน้ากากอนามัย ระยะห่าง ล้างมือ พร้อมย้ำว่า สถานการณ์การติดเชื้อในไทย ยังไม่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสายพันธุ์ที่พบมากยังเป็น XBB.1.5 ส่วน XBB.1.16 ยังไม่พบน้อย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง