ศบค.เห็นชอบมาตรการเปิดเรียน on site อยู่ได้กับโควิด19

ทำเนียบ 23 ก.พ.- ศบค.เห็นชอบติดโควิดอาการเล็กน้อยเข้าสอบได้ สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดจัดสถานที่แยก ส่วน นร.-ครูเสี่ยงต่ำเรียน On Site ได้ตามปกติไม่ต้องปิดโรงเรียน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ศบค.เห็นชอบมาตรการเปิดเรียน On-Site เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อในเด็กอายุ 0-19 ปี อยู่ที่ 21.9 % ทั้งนี้ ผลการสำรวจการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุของสถานศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 (ม.ค.-ก.พ.2565) ข้อมูล ณ 6 ก.พ.2565 พบว่าสถานศึกษาที่มีติดเชื้อยืนยัน 1 รายขึ้นไป แล้วปิดสถานศึกษา ถึง 28.7% ส่วนกรณีมีสถานศึกษาใกล้เคียงพบการติดเชื้อ แล้วสถานศึกษาอื่นปิดด้วย 9%


โฆษก ศบค. กล่าวถึงมาตรการเปิดเรียน on site อยู่ได้กับโควิด กรณีนักเรียนมีความเสี่ยงและติดเชื้อโควิด-19 ในสถานศึกษา คือ 1.โรงเรียนประจำ กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเรียน on site ตามปกติ สังเกตอาการ และประเมิน TST กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จัดการเรียนการสอน ปฏิบัติงาน ทำกิจกรรม ใน Quarantine zone ตามแนวทาง sand box safety zone in school เป็นเวลา 7 วัน และให้ติดตามสังเกตอาการอีก 3 วัน , การตรวจคัดกรองหาเชื้อ ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที และให้ตรวจครั้งที่1 ในวันที่ 5-6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อและตรวจครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื่อ ,สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน


ส่วนกรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้ติดเชื้อ พิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุข หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดทำ school isolation ตามแนวทาง sand box safety zone, สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม เน้นการระบายอากาศ และกำกับติดตามมาตรการส่วนบุคคลชั้นสูงสุด

ขณะที่โรงเรียนไป-กลับนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเรียน on site ตามปกติ สังเกตอาการ และประเมิน TST กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แยกกักตัวที่บ้าน หรือสถานที่ตามคำแนะนำของหน่วยบริการสาธารณสุข เป็นเวลา 7 วัน และให้ติดตามสังเกตอาการอีก 3 วัน , การตรวจคัดกรองหาเชื้อ ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที และให้ตรวจครั้งที่1 ในวันที่ 5-6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ และตรวจครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ , สถานศึกษา จัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน

ส่วนกรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้ติดเชื้อ ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข , พิจารณาจัดทำ school isolation ตามความเหมาะสม โดยคณะกรรมการโรงเรียน หน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบ และปฏิบัติตามมาตรการ SSร , สถานศึกษาจัดรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีอาการ


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการเปิดเรียน on site อยู่ได้กับโควิดในการสอบ กรณีสัมผัสเสี่ยงสูง และติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่สอบในการสอบ คือ สถานที่จัดสอบ ประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน ในการคัดกรอง และให้คำแนะนำด้านสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดจัด ให้มีพื้นที่แยกสำหรับจัดการสอบเป็นสัดส่วน แยกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลุ่มผู้ติดเซื้อ เน้นการระบายอากาศที่ดี จัดที่นั่งสอบมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร โดยผู้เข้าสอบ เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อย หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง, ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังการเข้าสอบ งดการพูดคุย เว้นระยะห่าง ,การเดินทางไปสนามสอบโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือประสานหน่วยสถานที่สอบ หน่วยบริการสาธารณสุขกรณีไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ส่วนผู้คุมสอบ ปฏิบัติการคุมสอบตามมาตราฐานการป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุข เช่น การใส่หน้ากากอนามัยใช้เวลาในการคุมสอบในห้องสอบให้น้อยที่สุด รวมถึงการวางแผนจัดการสอบให้เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย