fbpx

โอไมครอนยังอยู่ช่วงขาขึ้น แต่ควบคุมได้

สธ. 4 ก.พ.- กรมควบคุมโรค ชี้โอไมครอนติดเชื้อง่ายกว่าเดลตา หลังพบการติดเชื้อในครอบครัว เป็นโอไมครอน 40-50% เดลตา 10-20% จึงเป็นสาเหตุติดเชื้อเพิ่มขึ้น และอยู่ในขาขึ้น ส่วนยอดป่วยหนัก ใส่ท่อ และตายยังไม่เพิ่มสูง พยากรณ์เทรนด์โรคปี 65 โควิดคงที่ หากไม่กลายพันธุ์ หวัดใหญ่ และไข้เลือดออกพุ่งสูง

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในช่วงขาขึ้น และจะคงอยู่ระยะหนึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อถึงจะค่อยๆ ลดลง ตามหลักการระบาดวิทยา พร้อมชี้สาเหตุของการติดเชื้อ จากการติดเชื้อในครอบครัว เปรียบเทียบระหว่างเดลตากับโอไมครอน พบว่าเมื่อครั้งการติดเชื้อเดลตา โอกาสที่คนในครอบครัวจะติดเชื้อมี 10-20% แต่หากเป็นโอไมครอน จะมีการติดเชื้อ ถึง 40-50%. ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อ ยังคงเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ หากมีการติดเชื้อโอกาสเสียชีวิตมีถึง 100% ดังนั้นควรมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะจะเห็นว่าการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น


อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่อัตราตายไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเท่ากับในอดีต เทรนด์ทั่วโลกขณะนี้ไม่ได้คำนึงถึงตัวเลขติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น แต่ให้ความสนใจเรื่องของอัตราการป่วยหนัก ปอดอักเสบ การใส่ท่อช่วยหายใจ และการเสียชีวิต หากตัวเลขตรงนี้มีการเปลี่ยนไปก็แสดงถึง การควบคุมโรคว่าได้หรือไม่ โดยขณะนี้จำนวนป่วยหนักอยู่ที่ 500 คน จากเดิม 5,000 คน และจำนวนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 100 คนเศษ จากเดิม 1,300 คน และจำนวนผู้เสียชีวิต วันนี้ 22 คน จากเดิมสูงสุด 300 คน ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้

นพ.โอภาส กล่าวว่า การติดเชื้อที่พบในขณะนี้มาจากคลัสเตอร์กลุ่มต่างๆ ทั้งจากการรับประทานอาหาร หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กิจกรรม ทั้งงานศพ งานบวช ดังนั้นก็ขอให้ระมัดระวัง และเคร่งครัดหากสถานการณ์การติดเชื้อคงที่ ไม่มีสายพันธุ์ใหม่เข้ามา ก็เชื่อว่าในปีนี้มีโอกาสเป็นโรคประจำถิ่น ทุกกิจกรรมต้องทำอย่างสมดุล และอยู่ร่วมกันได้ อย่างระมัดระวัง พร้อมพยากรณ์โรคในปี 2565  ทั้งไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่  มีแนวโน้มพบผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น เพราะในอนาคตกลางปีคนอาจเลิกสวมหน้ากากอนามัย หากสถานการณ์โควิดดีขึ้น ทำให้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น ส่วนไข้เลือดออก ก็เป็นการระบาดปีเว้นปี และเมื่อมีการทำกิจกรรมมากขึ้นโอกาสป่วยติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้น  ส่วนโควิดสถานการณ์ติดเชื้อกลางปี หากไม่มีการกลายพันธุ์เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้