รัฐสภา 3 ก.พ.-“แม่หมอกระต่าย” น้ำตาคลอ ร้องสภาฯ ช่วยตรวจสอบคดีคู่ขนาน ตร. โอดลูกสาวเสียชีวิตแต่กลับถูกสังคมโยนผิด จี้แก้ปัญหาไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอย
นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล แม่ของพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่ายที่ถูก ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กก.1 บก.อคฝ. ขี่บิ๊กไบค์ชนเสียชีวิตขณะข้ามถนนบนทางม้าลาย พร้อมด้วยนายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย รับหนังสือ
นายณัฐพล กล่าวว่า การมายื่นกรรมาธิการฯ ไม่ได้ต้องการมาร้องเรียน แต่มาเพื่อขอให้สภาฯ ซึ่งเป็นกลางและมีอิสระเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้คู่ขนานไปกับสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่เชื่อใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เนื่องจากเห็นว่า การสูญเสียครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และประเด็นที่ยังคาใจคือการบังคับใช้กฎหมายกับการใช้ทางม้าลาย เพราะหลังเกิดเหตุแล้วปรากฏว่าบริเวณดังกล่าวรถที่สัญจรไปมายังขับด้วยความเร็วมาก แม้ปัจจุบันจะติดป้ายเตือนแล้ว โดยมีหลักฐานมาแสดงต่อกรรมาธิการฯ ด้วย จึงอยากให้เร่งแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียอีก เนื่องจากจุดนั้นเป็นโรงพยาบาล มีคอนโดมิเนียม เป็นแหล่งชุมชน
นางรัชนี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกสาวของตนไม่ได้ข้ามถนนด้วยความประมาท หลายคนมองว่าเวลาเกิดปัญหาแบบนี้ แต่กลับโยนความผิดให้ผู้ข้ามถนน ลูกสาวของตนไม่ได้มีโอกาสป้องกันตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่มีโอกาสแม้แต่ได้รับการรักษา แม่รับไม่ได้ จึงขอฝากประชาชนทุกคนให้กำลังใจ และให้ความเป็นธรรม
“ไม่อยากให้ลูกสาวตายฟรี คำนี้ไม่อยากพูดเลย ขณะนี้เป็นห่วงลูกสาวอีกคนหนึ่ง เพราะมีอาการหวาดกลัวการข้ามถนน จึงอยากให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยสภาฯ ขับเคลื่อน เพราะไม่อยากให้คดีนี้เหมือนคดีอื่น ๆ ที่หายไปโดยไม่ส่งผลอะไรให้กับประเทศเลย ซึ่งหมอกระต่ายจะได้ภาคภูมิใจที่คดีของตน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม” นางรัชนี กล่าว
ขณะที่นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ กรรมาธิการฯ จะให้ความสำคัญ ซึ่งกรณีดังกล่าว มีหลายประเด็นโดยเฉพาะเรื่องของกฎหมายที่จะต้องแก้ไขเพื่อให้การเดินข้ามถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น แม้ในระยะหลังมีความตื่นตัวเรื่องนี้ แต่คงไม่เพียงพอ จึงต้องแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยอีก ส่วนจะเชิญใครเข้ามาชี้แจงกรรมาธิการจะปรึกษากันอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย