กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – คดี “ส.ต.ต.นรวิชญ์” ขี่บิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” เสียชีวิต ทนายเผยครอบครัวหมอกระต่ายพอใจคำตัดสินของศาล เตรียมหารือสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
คุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4 พัน ตร.ขี่บิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” ดับ
วันนี้ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ตำรวจควบคุมฝูงชน ขี่บิ๊กไบค์พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ “หมอกระต่าย” จักษุแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี เสียชีวิต ขณะเดินข้ามทางม้าลายใกล้แยกพญาไท เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อใกล้เวลานัด ส.ต.ต.นรวิชญ์ เดินทางมาที่ศาลด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนเดินเลี่ยงและไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ขณะที่นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ นพ.อนิรุทธ์ และนางรัชนี สุภวัตรจริยากุล พ่อแม่ของหมอกระต่าย เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับมอบอำนาจจากคุณพ่อและแม่ของหมอกระต่ายให้รับฟังคำตัดสิน ซึ่งไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ
คดีนี้อัยการยื่นศาลเอาผิด ส.ต.ต.นรวิชญ์ 9 ข้อหา คือ 1.นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ 2.ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี 3.ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย
4.นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง 5.ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 6.ขี่รถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 7.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 8.ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทางทนายพ่อแม่หมอกระต่ายจ่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ และ 9.ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ท้ายคำฟ้อง อัยการยังขอให้ศาลมีคำริบบิ๊กไบค์ที่พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง และขอให้เพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ต้องหาด้วย
ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยื่นประกันตัว-ย้ำยังเสียใจ สำนึกผิด
ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ศาลพิเคราะห์รายละเอียดแล้วเห็นว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ ขับรถเร็วเกินกำหนดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ข้อนี้ลงโทษจำคุก 2 ปี ลดโทษจำคุก 1 ปี, ขับรถเร็วเกินกำหนดไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ลงโทษจำคุก 1 เดือน ลดโทษจำคุก 15 วัน, นำรถไม่ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียนมาใช้ในทาง ปรับ 2,000 บาท ลดโทษปรับ 1,000 บาท
ใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ปรับ 2,000 บาท ลดโทษปรับ 1,000 บาท , ใช้รถที่ไม่จัดให้มีการประกันความเสียหาย ปรับ 2,000 บาท ลดโทษ ปรับ 1,000 บาท, ใช้รถโดยมีอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วน ปรับ 2,000 บาท ลดโทษปรับ 1,000 บาท
รวมพิพากษาจำคุก 2 ปี 30 วัน ปรับ 8,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งเพิกถอนใบอนุญาตใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์
หลังสิ้นคำพิพากษา ส.ต.ต.นรวิชญ์ ถึงกลับมีอาการมือสั่น เหม่อลอย ทำให้พ่อต้องเข้าไปกุมมือเพื่อให้คลายความกังวล จากนั้นครอบครัวได้ยื่นเรื่องขอประกันตัว
ขณะที่นายสนทยา น้อยเจริญ ทนายความ ส.ต.ต.นรวิชญ์ เปิดเผยว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาจึงยอมรับในคดีนี้ทุกชั้น โดยจำเลยได้วางเงินบรรเทาผลร้ายแก่ผู้เสียหายเป็นจำนวน 200,000 บาท ขอประกันตัว โดยใช้ตำแหน่งร้อยตำรวจตรี ของพ่อเป็นหลักประกัน
ด้านนายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความฝ่ายครอบครัวหมอกระต่าย พอใจในคำตัดสินของศาล แต่จะไปหารือพ่อแม่หมอกระต่ายอีกครั้งเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ส่วนคดีฟ้องแพ่งเรียกเงินค่าเสียหายจาก ส.ต.ต.นรวิชญ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร 72 ล้านบาท รวมเป็นเงินรวม 144 ล้านบาท อยู่ระหว่างศาลพิจารณา
ล่าสุดเวลา 14.33 น. หลังบิดาและผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยใช้ตำแหน่งราชการเป็นหลักทรัพย์ โดยศาลอาญาพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกัน 200,000 บาท
ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคงปฏิบัติคำสั่งเดิมที่ให้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ถ้าหลังจากนี้หากมีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา ในโอกาสต่อไป และหากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดยกฟ้อง ทาง ส.ต.ต.นรวิชญ์ ก็มีสิทธิจะยื่นเรื่องขอเข้ารับราชการได้ตามระเบียบ ขึ้นอยู่กับคำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุดว่ามีคำสั่งจำคุกหรือไม่ ถ้าหากมีคำสั่งจำคุก ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการในทันที
.-สำนักข่าวไทย