อาคเนย์ประกันภัย ยื่นแนวทางดูแลผู้เอาประกันภัย

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.-ที่ประชุมผู้ถือหุ้น “อาคเนย์ประกันภัย มีมติยอมเลิกกิจการ ยื่นกองทุนประกันวินาศภัยดูแลกรมธรรม์ พร้อมขอคืนเบี้ยประกัน และให้ลูกค้าย้ายกรมธรรม์ไปยังบริษัทประกันรายอื่น ลุ้นบอร์ด คปภ.พิจารณา 28 ม.ค.นี้


บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงว่า บริษัทยังดำเนินธุรกิจและให้ความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยตามปกติ โดยยังมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ต้องดำรงตามกฎหมายอยู่ถึง 170% และยังมีสภาพคล่องเพียงพอในการจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าและคู่ค้าทุกราย การดำเนินการใช้สิทธิขอเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยโดยสมัครใจ และส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจต่อนายทะเบียน (คปภ.) เพื่อหาทางออกดีที่สุด เพื่อลดผลกระทบสำหรับลูกค้าผู้เอาประกันทุกประเภทและผู้เกี่ยวข้องของบริษัทฯ ให้ได้รับเงินคืนทุกราย ลูกค้าทุกกรมธรรม์จะได้รับการคุ้มครองและดูแลตามสิทธิอย่างถูกต้อง รวมถึงการดูแลพนักงาน คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจทุกราย 

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ น่าจะเป็นการหาทางออกที่ดีที่สุด คือ การยอมเลิกกิจการเพื่อให้ทุกคนได้เงินคืน ยอมรับตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา มุ่งแก้ปัญหาประกันภัยโควิด-19 แบบ “เจอ จ่าย จบ” ผ่านหลายช่อง แต่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น ท่ามกลาง COVID-19 ทวีความรุนแรงขึ้น จึงเสนอ คปภ. ในวันที่ 28 มกราคม 2565 พิจารณาเลิกกิจการ”


สำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 มีมติขอคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและการจัดการเกี่ยวกับภาระและกรมธรรม์ประกันภัยทั้งหมดของอาคเนย์ประกันภัย ดังนี้

1. การเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของอาคเนย์ประกันภัย เป็นการใช้สิทธิขอเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยโดยสมัครใจ และส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจต่อนายทะเบียนตามกฎหมายประกันวินาศภัย 2535 จึงขอให้คณะกรรมการ คปภ. หรือกองทุนประกันวินาศภัย เป็นผู้มีอำนาจดำเนินการและจัดการเกี่ยวกับภาระและกรมธรรม์ประกันภัยทั้งหมดของอาคเนย์ประกันภัย รวมถึงการคืนเบี้ยประกันให้กับผู้เอาประกันภัยทุกราย ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่อาคเนย์ประกันภัยยังมีภาระผูกพันตามกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยจาก COVID-19 รวมทั้งการจัดหาผู้รับประกันภัยรายใหม่ให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่ คปภ. หรือกองทุนประกันวินาศภัยเห็นชอบ โดยอาคเนย์ประกันภัย ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงคะแนนเสียงร้อยละ 100 ไม่มีผู้ใดออกเสียงคัดค้าน

2. ที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วยกับการโอนกิจการของอาคเนย์ประกันภัย ให้แก่บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 99.88 ไม่มีผู้ใดออกเสียงคัดค้านแนวทางบริหารจัดการ และกรมธรรม์ประกันภัยทั้งหมดของอาคเนย์ประกันภัย ขอคืนเบี้ยประกันให้กับผู้เอาประกันภัยทุกรายตามกรมธรรม์ประกันภัยที่อาคเนย์ประกันภัย ยังมีภาระผูกพันตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อผู้เอาประกันภัยนั้นๆ รวมถึงกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจาก COVID-19 รวมทั้งการจัดหาผู้รับประกันภัยรายใหม่ให้แก่ผู้เอาประกันภัย เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติม  


อาคเนย์ประกันภัย ขอยืนยันว่า ขอทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังในสถานการณ์ที่ยากลำบากขณะนี้ เพื่อร่วมหาทางออก เพื่อทำให้ทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และพนักงาน ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด