ทำเนียบ 19 พ.ย.- นายกฯ นำ ครม.ลอยกระทง อธิษฐานให้บ้านเมืองปลอดภัย ขอขมาลาโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ภัยผ่านพ้นไปจากประเทศ มีเสถียรภาพ ลดความขัดแย้ง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา นำคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส อาทิ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมงาน “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานประเพณีไทย 1 ครอบครัว 1 กระทง รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ปลอดโรค ปลอดภัย” ณ คลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ได้ชมนิทรรศการองค์ความรู้ สาระคุณค่า และข้อปฏิบัติสำหรับเทศกาลประเพณีลอยกระทงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และชมการแสดงชุด “สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ชมการแสดงเพลงพื้นบ้านอยุธยาและการจำลองวิถีชีวิตตลาดน้ำ
นายกรัฐมนตรี ได้ลองพับใบตองสำหรับทำกระทง และรับมอบกระทง “ประทีปแก้วโกมุทพุทธบูชา” ที่สื่อความหมายถึงการประดิษฐ์กระทง เป็นรูปทรงดอกบัวแย้มกลีบคลี่บาน เพื่อเป็นพุทธบูชาสักการะรอยพระพุทธบาทสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากตัวแทนเด็กและเยาวชน จากนั้นนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ร่วมลอยกระทง โดยพลเอกประวิตร ไม่ได้มาร่วมลอยกระทงด้วย โดยเดินทางกลับหลังร่วมพิธีเปิดงาน พร้อมระบุว่า ตนนั้นกลับก่อน เพราะลงไปลอยไม่ได้
ภายหลังลอยกระทง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้อธิษฐานให้บ้านเมืองปลอดภัย ขอขมาลาโทษพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และพระแม่คงคา และแผ่นดิน อิติปิ โส ภะคะวา เรื่องขอขมามีคาถาอยู่แล้ว ในเรื่องการลอยกระทง การขอขมาลาโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เทวดาที่คุ้มครองประเทศชาติ รวมถึงตัวเองด้วย ภัยต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปจากประเทศไทย และให้ทุกอย่างมีเสถียรภาพทุกเรื่อง ลดความขัดแย้งให้มากที่สุด
เมื่อถามว่า นายกฯ จะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ที่ 6 รัฐมนตรีตั้งขึ้นตามกระแสข่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่ายหัวแทนคำตอบ ก่อนขึ้นรถและชี้ให้ดูหน้าจอบนรถที่กำลังออกข่าวนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาตอบโต้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรื่องการใช้รถทหารมาขนส่งสินค้าช่วยประชาชนแทนรถบรรทุก
สำหรับ การจัดงานวันนี้มีความเข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุข ผู้เข้าร่วมงาน จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม และตรวจ ATK ขณะเดียวกันมีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ จุดลงทะเบียน “ไทยชนะ” ก่อนเข้าและออกงานด้วย .-สำนักข่าวไทย