ภูมิภาค 24 ก.ย. – ชลประทานนครราชสีมาเร่งเปิดทางระบายฉุกเฉิน หลังน้ำทะลักอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย 123.6% สูงสุดในรอบ 50 ปี ชาวบ้านผวาอ่างเก็บน้ำจะรับมวลน้ำมหาศาลไม่ไหวจนถึงขั้นแตก ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
วานนี้ (23 ก.ย.) ภาพมุมสูงสภาพอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีมวลน้ำมหาศาลเหนือสันขอบอ่าง มองเห็นระยะไกลสุดลูกหูลูกตา ล่าสุดมีปริมาณน้ำ 34.2 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 123.6% เกินความจุกักเก็บ 27.7 ล้านลูกบาศก์เมตร นับเป็นปริมาณน้ำมากที่สุดตั้งแต่มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้เมื่อปี 2514 หรือในรอบ 50 ปี
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ อ่างพากันแตกตื่น แห่มุงดูเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานนครราชสีมา นำรถแบ็กโฮขุดเจาะถนนซีเมนต์ เปิดทางระบายน้ำฉุกเฉิน บริเวณด้านทิศใต้ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ด้านล่าง เนื่องจากมีมวลน้ำมหาศาลจากเขต อ.ด่านขุนทด ไหลทะลักลงอ่างอย่างต่อเนื่องวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่สามารถระบายน้ำได้วันละ 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงต้องเพิ่มช่องทางระบายน้ำมากขึ้น ให้สอดคล้องกับสัดส่วนปริมาณน้ำไหลลงอ่าง อีกทั้งต้องรับมือกับสถานการณ์ฝนตกลงมาทุกวัน ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ด้านชาวบ้านพากันหวาดผวาอ่างเก็บน้ำจะรับมวลน้ำมหาศาลไม่ไหว จนถึงขั้นแตกพังเสียหาย ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ชัยภูมิน้ำทะลักอ่าง หมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ หลังเกิดพายุฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวันที่ผ่านมา บนเทือกเขาพังเหย อ.เทพสถิต ทำให้น้ำป่าปริมาณมากจากเทือกเขาไหลลงมาสะสมในอ่างเก็บน้ำบ้านห้วยฝรั่ง จนเกินระดับเก็บกัก ทำให้น้ำล้นสันอ่างเก็บน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ถนนทางเข้าออกหมู่บ้านดงลาน หมู่ 11 ต.วะตะแบก จนถนนพัง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก นอกจากนี้มวลน้ำยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ติดริมคลองห้วยฝรั่ง ได้รับความเสียหายอีกจำนวนมาก
เบื้องต้น นายสิธา ภู่เอี่ยม นายอำเภอเทพสถิต จ.ชัยภูมิ เร่งประสานฝ่ายความมั่นคง นำกำลังสมาชิกอาสาสมัคร ตลอดจนเจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจ กำนัน และประชาชนจิตอาสา ออกช่วยขนย้าย เก็บเศษท่อนไม้ที่กีดขวางทางน้ำในลำหัวย เพื่อเปิดทางน้ำให้สามารถระบายได้คล่องตัว
ทั้งนี้ ฝ่ายปกครองได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และตรวจดูระดับน้ำ โดยให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง ห้ามเด็กลงเล่นน้ำในระยะนี้
ฝนถล่มตาก น้ำท่วม ถ.พหลโยธินขาล่องสูง 1 เมตร
ที่ อ.เมือง จ.ตาก ฝนลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ อ.เมืองตาก น้ำท่วมฉับพลันบางช่วงของถนนหลายสาย โดยเฉพาะถนนเส้นทางหลักคือ ถนนพหลโยธิน น้ำท่วมฝั่งขาล่องบางช่วง ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาตาก จนถึงบริเวณหน้าโรงเรียนผดุงปัญญา สูงถึงเกือบ 1 เมตร บางจุดรถยนต์ขนาดเล็กสัญจรไปมาได้ด้วยความยากลำบาก และทำให้การจราจรเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำและอำนวยการด้านการจราจร
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของปี นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักหลายชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมถนน บ้านเรือน ร้านค้าบริเวณดังกล่าว และอีกหลายพื้นที่ของ อ.เมืองตาก ซึ่งในครั้งนั้นทำให้รถติดยาวสะสมหลายกิโลเมตร กว่าจะเร่งระบายน้ำออกจากผิวการจราจรเพื่อให้รถยนต์พอที่จะสามารถสัญจรได้
คลองสาขาแม่น้ำยมล้นตลิ่ง ชาวบ้านจับตาใกล้ชิด
ที่ จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านกว่า 20 หลังคาเรือน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ หมู่ 3 และหมู่ 13 ต.บางเคียน อ.ชุมแสง ยังคงเดือดร้อนจากน้ำคลองสาขาแม่น้ำยมล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำสูงมากกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านต้องขนสิ่งของหนีน้ำให้สูงกว่าเดิม ส่วนรถและเครื่องมือทำการเกษตรก็นำไปไว้บนถนนในพื้นที่สูง
นางบุญพา ชาวบ้าน บอกว่า น้ำจากคลองบางเคียนท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะลดลง ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 1 สัปดาห์ และคาดว่าจะมีน้ำท่วมขังยาวนานนับเดือน เนื่องจากว่าพื้นที่ ต.บางเคียน เป็นพื้นที่ต่ำ.-สำนักข่าวไทย