รัฐสภา 3 ก.ย.-นายกฯ ย้ำหยุดเสี้ยมยุ “3 ป.” ตีกัน ยังรักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียว ตียังไงก็ไม่แตก ย้ำพี่ 2 ป.ไม่เคยสอนให้โกง ไม่ให้ราคา “มงคลกิตติ์” ระบุคนปล่อยข่าวแจก 5 ล้านไม่มีสติ รับจะพบ ส.ส.มากขึ้น แก้ปัญหาห่างเหิน ยันไม่มีปัญหากับ “ร.อ.ธรรมนัส” เป็นผู้ใหญ่จะมีปัญหากับเด็กทำไม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ารับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่สี่ โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องประชุมกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ประกาศล้มนายกรัฐมนตรี ว่า “ไม่มีราคา อย่าไปฟังเลย”
เมื่อถามถึงกรณีนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยระบุว่ามีการแจกเงิน 5 ล้านบาทเพื่อล็อบบี้โหวตให้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการพูดที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ โดยไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น ซึ่งฝ่ายกฎหมายและฝ่ายเกี่ยวข้องดำเนินการปล่อยไว้ไม่ได้
“บุคคลนี้หลายครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ก็กรีดเลือดตัวเอง ขอให้ไปดูพฤติกรรมแต่ละคนที่พูดออกมาและดูความน่าเชื่อถือระหว่างเขากับนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามคนที่จะล้มนายกฯ เขาต้องการล้มอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าตัวนายกฯกับตัวเขาน่าเชื่อถือแค่ไหน และมีราคาหรือไม่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายในครั้งนี้ว่า ไม่มีอะไรแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา เป็นข้อมูลเหมือนเดิมและเอาตัวเลขย้อนหลังมา ซึ่งสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ในเรื่องโควิด-19 คนป่วย คนเจ็บ แน่นอนว่าในการทำงานย่อมมีปัญหาอยู่แล้ว เราก็พยายามแก้ โดยพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคช่วยกันดูแลประชาชน เพราะเป็นหน้าที่ของ ส.ส.
เมื่อถามว่าแก้ปัญหารอยร้าวเรื่องการล้มนายกฯ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าใครทำ ทำจริงหรือไม่ และเชื่อมโยงกับใคร ส่วนแนวทางการโหวตนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องที่ส.ส.โหวตเอง อย่างไรก็ตามไ ด้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโดยตลอด
“ทุกคนเป็นคนตั้งเองไม่ใช่เหรอว่า 3 ป. ไม่มีใครมาทำร้ายผมได้ ทุกคนอาจจะไม่รู้และทุกคนอาจจะไม่รักคน รักเพื่อน รักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนท่ามกลางสนามรบ ผมก็เคยอยู่ร่วมกัน และท่านเป็นผู้บังคับบัญชาผมตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนและฝึกอบรมด้วยกันจนกระทั่งโตขึ้นมา ยังคบและเคารพกันอยู่ ทุกอย่างที่ผมเป็นวันนี้ได้ เพราะพี่ทั้งสองคนสั่งสอนผมมา ผมจำได้ว่าไม่เคยที่พี่ทั้งสองจะมาสอนให้ผมทุจริต โกง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องความสัมพันธ์ 3 ป.จะตีอย่างไรก็ไม่แตกกันอยู่แล้ว รักกัน เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดตนไว้
เมื่อถามย้ำว่ามีการเสี้ยมให้ 3 ป. แตกกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เสี้ยมกันมานานแล้ว ทุกฝ่ายเสี้ยมหมด
เมื่อถามว่า วันนี้เบื่อการเมืองหรือไม่ที่ต้องเจอสถานการณ์หนักทุกเรื่อง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงจะเบื่ออย่างไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะนึกถึงประชาชนเป็นหลัก ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า การปฏิรูปต่าง ๆ ทุกอย่างทำ ซึ่งเรื่องการปฏิรูปการเมืองต้องแก้ที่ตัวพวกเรา ถ้ายังเป็นเพื่อนกันอยู่แบบนี้แล้วหาวิธีการที่จะล้ม จะเลื่อยขากันก็ถือว่ายังไม่เริ่มปฏิรูป ส่วนจะมั่นใจว่าเดินต่อไปอย่างเข้มแข็งหรือไม่ หากประชาชนยังต้องการตนก็จะเดินต่อไป
เมื่อถามถึงการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในช่วงบ่ายวันนี้(3 ก.ย.) จะต่อสายเข้าไปคุยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ต้องโทรคุย ตนอาจไปเยี่ยมก็ได้ ส่วนที่มีการมองว่าที่ผ่านมาตนเว้นระยะห่างจาก ส.ส. จึงอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ก็อาจเป็นไปได้ เพราะตนทำงานมาก จึงต้องใช้เวลาในการทำงาน แต่ก็พูดคุยกับหัวหน้าพรรคและหัวหน้าพรรคไปพูดคุยร่วมกับสมาชิก ซึ่งอาจมีปัญหาตรงนั้น
“ผมพูดคุยกับ ส.ส.ที่มาพบหลายสิบคนเมื่อวาน(2 ก.ย.) ซึ่งเป็นการพบกันอย่างเปิดเผย ผมทำอะไรก็ตามจะมีบุคคลที่สามอยู่เสมอในการทำงาน เพื่อให้เห็นถึงความโปร่งใสของผม เพราะถ้าทำอะไรไม่มีพยานก็ลำบาก ไปอ้างไปพูดจาอะไรก็ลำบาก อย่างไรก็ตาม จะหาโอกาสพบส.ส.มากขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่ามีกระบวนการจากคนต่างประเทศเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ เอาในประเทศก่อน”
เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้มีความคลางแคลงใจร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยมีอะไรกับเขา เพราะเป็นคนเอาเขาเข้ามาทำงานเอง แล้วจะไปมีอะไรกับเขา ผู้ใหญ่จะไปมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร
ส่วนต้องมีแผนเผชิญเหตุหรือไม่ หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นในวันลงมติพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้จะมีการล้มนายกฯ ก็ไปดูกฎหมาย มาตรา 167 และ168 ยืนยันว่าไม่หวั่นไหว การทำงานแม้จะมีปัญหาอยู่บ้างทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ แต่ในสิ่งที่ไม่สำเร็จมักนำมาพูดและโจมตีกัน ส่วนการออกเสียงโหวตในวันพรุ่งนี้จะผ่านหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของ ส.ส.และเป็นเรื่องความเชื่อถือเชื่อมั่น.-สำนักข่าวไทย