วอชิงตัน 25 ส.ค. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี เผยผลการศึกษาที่ระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นามีประสิทธิภาพต้านโรคโควิดเหลือเพียงร้อยละ 66 ลดลงจากเดิมที่ร้อยละ 91 หลังเกิดการระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา
ซีดีซีได้ศึกษาข้อมูลของอัตราติดเชื้อโควิดในกลุ่มผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนและผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยพบว่าวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA มีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิดเหลือเพียงร้อยละ 66 ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐ ประสิทธิภาพดังกล่าวลดลงจากเดิมที่มีร้อยละ 91 ในช่วงวันที่ 14 ธันวาคม 2563-10 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นการศึกษาขั้นต้น ขณะที่ผลการศึกษาของซีดีซีในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่รัฐนิวยอร์กพบว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดมีอัตราป้องกันอาการป่วยหนักสูงกว่าร้อยละ 90 ส่วนผลการศึกษาที่เมืองลอสแอนเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนียพบว่า วัคซีนโควิดมีอัตราป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงถึงร้อยละ 97
คณะผู้เขียนรายงานระบุว่า แม้ผลการศึกษาดังกล่าวชี้ว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิดมีประสิทธิภาพลดลงในระดับปานกลาง แต่ยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิดที่ร้อยละ 66 ซึ่งยังคงมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ซีดีซีได้ตรวจสอบประสิทธิภาพวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาโดยใช้ข้อมูลตามจริงนับตั้งแต่ที่วัคซีนทั้งสองขนานได้รับอนุมัติใช้ในกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงใน 6 รัฐของสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย