กรุงเทพฯ 19 ก.ค.- อธิบดีกรมวิทย์ เผยสายพันธุ์เดลตากระจายครอบคลุม 72 จังหวัดแล้ว เหลือ 5 จังหวัด ยังไม่พบการระบาด ทำให้ภาพรวมประเทศสายพันธุ์เดลตาครองไปถึง 63% ส่วน กทม. เดลตาลามไปถึง 77% พร้อมแจงกรณี 7 คน พบสายพันธุ์ลูกผสมในแคมป์ก่อสร้าง ไม่พบเพิ่ม และตอนนี้ทุกคนสบายดี
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาแซงอัลฟาแล้วอย่างสิ้นเชิง ส่วนเบตาอยู่ในจังหวัดชายแดนใต้เป็นส่วนใหญ่ แนวโน้มในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการตรวจประชาชนใน 3,340 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่าเป็นการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา 63% อัลฟา 34% เบตา 3.3% ส่วนในพื้นที่ กทม. พบการแพร่ระบาดของเชื้อเดลตามากถึง 77% อัลฟา 23.5% และขณะนี้แพร่ระบาดของเชื้อครอบคลุมไปถึง 72 จังหวัด (71 จังหวัด +กทม.) เหลือเพียง 4-5 จังหวัดเท่านั้นที่ยังไม่พบการระบาด
ดังนั้น คำตอบของการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้น ก็มาจากสายพันธุ์เดลตา เพราะคุณสมบัติติดง่าย แต่อัตราป่วยตายยังไม่มากเท่าไหร่ แต่หากปล่อยให้เชื้อแพร่กระจายไปมาก คนอาจล้นโรงพยาบาลและพบคนป่วยเสียชีวิตมากขึ้น ส่วนจังหวัดที่เดิมยังไม่พบเคยพบการระบาดของเดลตาก็กลับมาพบ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน 3 คน กาญจนบุรี 1 คน สมุทรสงคราม 4 คน ฉะเชิงเทรา 20 คน ตราด 2 คน สุรินทร์ 28 คน ชุมพร 1 คน นครศรีธรรมราช 2 คน กระบี่ 2 คน พังงา 1 คน และปัตตานี 2 คน
นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า ส่วนสายพันธุ์เบตายังพบในพื้นที่ภาคใต้อยู่เป็นส่วนใหญ่และที่เดิมสัปดาห์ก่อนมีการแถลงพบหนุ่มบึงกาฬที่ไปเป็นแรงงานไต้หวันกลับมาไทย พบการติดเชื้อเบตา จากการตรวจค้นหาเชิงรุกพบในครอบครัวมีการติดเชื้อเพิ่ม 3 คน ทำให้ในจังหวัดบึงกาฬพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วรวม 4 คน จากการตรวจสอบไม่สามารถระบุได้ว่ามีการติดเชื้อมาจากที่ใด ส่วนการติดเชื้อเบตาใน กทม. ยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม จึงพบผู้ป่วยแค่ 2 คน ที่เป็นการติดเชื้อจากลูกที่เดินทางกลับมาจากนราธิวาสแล้วพบพ่อ ทำให้พ่อติดเชื้อเท่านั้น ทำให้การแพร่ระบาดใน กทม.อาจหยุดแค่นี้
ส่วนกรณีพบ 7 คนงานในแคมป์ก่อสร้าง กทม. ติดเชื้อcบบลูกผสม 2 สายพันธุ์ ทั้งเดลตาและอัลฟา จากการติดตามพบว่าทั้งหมดยังสบายดี ไม่มีอาการรุนแรง แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังต่อไป และยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่มในลักษณะแบบนี้ แต่การติดเชื้อที่มีจำนวนมากขึ้นย่อมมีโอกาสที่ไวรัสจะพัฒนาและกลายพันธุ์ได้.- สำนักข่าวไทย