ผอ.สถาบันวัคซีน รับแอสตราฯ ไม่ตามเป้า 10 ล้านโดส

สธ.2ก.ค.-ผอ.สถาบันวัคซีน รับวัคซีนแอสตราฯ ไม่ตามเป้า 10 ล้านโดส เร่งหาจัดวัคซีนอื่นเพิ่ม แจงพยายามเจรจานำไฟเซอร์เข้ามาแล้ว สัญญาซื้อขายเสียเปรียบ ต้องหารือทางกฎหมาย อีกทั้งกระบวนการผลิต ได้วัคซีนมาจริงไตรมาส 4


นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวในการเสวนา “วัคซีนโควิด ไทยจะเดินต่อไปอย่างไร” ว่าเรื่องการจัดหาวัคซีนมีอยู่ 2 ส่วน คือการวางแผนจัดหาและการได้มาซึ่งจำนวนวัคซีนจริงๆ ซึ่งได้เตรียมการจัดหาแล้วควบคู่กับการขยายกำลังการฉีดวัคซีนด้วย ทั้งนี้ขยายกำลังการฉีดจะอยู่ที่ 10 ล้านโดส จึงพยายามจัดหาทุกแหล่งมาใช้ในระยะเร่งด่วน ซึ่งก็คือวัคซีนซิโนแวค เข้ามาตั้งแต่ ก.พ.-มิ.ย. 9.5 ล้านโดส โดยรวมวัคซีน ที่รัฐบาลจีนบริจาคด้วย

นพ.นคร กล่าวว่า ส่วนของวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนหลัก ทำสัญญาส่งมอบ 61 ล้านโดส ในปี 64 แต่ไม่ได้ระบุในสัญญาว่าต้องส่งมอบเดือนละเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อดูกำลังการผลิตของแอสตราฯ ที่ผลิต โดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์มีกำลังการผลิต 180 ล้านโดสต่อปี เฉลี่ยเดือนละ 15 ล้านโดส แต่เมื่อต้องแบ่งสัดส่วนวัคซีนให้กับต่างประเทศ ก็อาจทำให้การจัดส่งวัคซีนให้ได้ไม่ถึงเดือนละ10 ล้านโดสตามเป้าที่เคยวางไว้ ทำให้ต้องคิดและหาวัคซีนจากแหล่งอื่นเข้ามาเสริม ส่วนเรื่องการนำข้อกฎหมายเรื่องห้ามส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเกรงกระทบต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนึกถึงใจเขาใจเรา


นพ.นคร กล่าวว่า ส่วนการจัดหาวัคซีนชนิด m-RNA อยู่ระหว่างการเจรจากับไฟเซอร์ ตอนแรกว่าจะส่งมอบไตรมาส 3 หรือประมาณ ส.ค. แต่เมื่อส่งใบจองทางไฟเซอร์ กลับระบุ การส่งมอบวัคซีนในไตรมาส 3 เป็นไปได้ยาก จึงจะส่งมอบวัคซีนในไตรมาส 4 แทน หรือประมาณ ต.ค.-พ.ย. จำนวน 20 ล้านโดส แต่ถ้าบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ผลิตได้ไม่มากพอ กระบวนการทุกอย่าง ทั้งการส่งมอบก็ต้องถูกเลื่อนไป พร้อมยอมรับตลาดวัคซีน ขณะนี้ไม่ใช่ของผู้ซื้อ ย่อมเสียเปรียบและเป็นความเสียเปรียบในภาพรวมของประเทศ ดังนั้นต้องนำสัญญาซื้อขายไปปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานกฤษฎีกาและขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อให้เสียเปรียบน้อยที่สุด

นพ.นคร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ มีการเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมผ่านช่องทางการทูตหรือการจัดหาแบบรัฐต่อรัฐ มีทั้งวัคซีนของประเทศคิวบา ซึ่งเป็นซับยูนิตโปรตีนตัวแรกที่แสดงผลออกมามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 92% เป็นวัคซีนที่ค่อนข้างปลอดภัย รวมถึงกำลังพิจารณาวัคซีนเคียวแวคของเยอรมันเช่นกัน แต่อยู่ในขั้นตอนการดูผลการศึกษา และข้อมูลเชิงลึกของวัคซีน คาดว่าในปีหน้าจะจัดหาวัคซีนตอบสนองต่อไวรัสกลายพันธุ์ให้มากขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย