ช็อก! สาวท้องติดโควิดจากผู้ป่วยข้างเตียง-ห่วงลูกติดเชื้อด้วย

อ่างทอง 26 มิ.ย.-สาวท้อง 8 เดือนช็อก หลังรู้ว่าตัวเองติดโควิดจากผู้ป่วยเตียงข้างๆ ที่ปกปิดข้อมูล เป็นห่วงลูกในท้องกลัวจะติดเชื้อไปด้วย ขณะที่ รพ.ต้องปิดตึกผู้ป่วย ป้องกันเชื้อแพร่กระจาย และต้องกักตัวเจ้าหน้าที่-บุคคลที่เกี่ยวข้องรวม 50 คน


ผู้ป่วยหญิงซึ่งพักรักษาตัวอยู่ใน รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ได้โพสต์คลิปวิดีโอเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย เล่าเรื่องราวที่ทำให้เธอช็อก หลังเข้ามารักษาโรคเบาหวานที่ รพ.นี้ แต่ต่อมากลับพบว่าตัวเธอตรวจเจอเชื้อโควิด คาดว่าติดจากผู้ป่วยเตียงข้างๆ ที่ปกปิดข้อมูล ไม่ยอมแจ้งแพทย์และเจ้าหน้าที่ว่าเคยไปพื้นที่เสี่ยงก่อนมารักษาตัวที่ รพ.

ผู้ป่วยหญิงรายนี้เล่าในคลิปวิดีโอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เธอกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน เข้ามาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.64 เนื่องจากมีภาวะโรคเบาหวานในครรภ์ รวมถึงมีภาวะจะคลอดก่อนกำหนด จึงต้องนอนพักรักษาตัวที่ตึกสูตินรีเวช ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.มีผู้ป่วยคนหนึ่งเข้ามารักษา และนอนพักอยู่เตียงใกล้ๆกัน ภายหลังผู้ป่วยคนดังกล่าวตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ก่อนหน้านี้ได้ปกปิดข้อมูล ไม่ยอมแจ้งเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ป่วยทั้งหมด รวมถึงตัวเธอ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ มีความเสี่ยงสูง ต้องเข้าตรวจคัดกรองโควิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ผลออกมาเป็นลบ แต่การตรวจครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ผลออกมาว่า ตัวเธอติดเชื้อโควิดด้วย ทำให้เธอรู้สึกกลัว เกรงว่าลูกในท้องจะได้รับผลกระทบไปด้วย


“หนูมารักษาอาการเบาหวาน แต่กลับมาติดเชื้อโควิดจากผู้ป่วยเตียงข้างๆ ที่ปกปิดข้อมูล หนูกำลังตั้งท้อง 8 เดือน ลูกของหนูในท้องจะเป็นยังไงบ้างก็ยังไม่รู้เลย หนูต้องมานอนในห้องรวมแบบนี้เหรอคะ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ความผิดของหนูเลย หนูแค่มารักษาเบาหวาน แต่ดันมาติดโควิดจากเขา หนูเบื่อ อึดอัด อยากกลับบ้าน หนูเป็นห่วงลูก” ผู้ป่วยหญิงรายนี้ระบายความในใจ

ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์รายหนึ่งของ รพ.แห่งนี้ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องผู้ป่วยที่เข้ามารักษาปกปิดข้อมูล จนทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ผู้ป่วย รวมไปถึงญาติผู้ป่วย ต้องถูกกักตัวถึง 50 คน และต้องปิดตึกผู้ป่วยเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ อีกทั้งยังเพิ่มภาระให้กับโรงพยาบาลในจุดอื่นๆ ทำให้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงขอให้ผู้ป่วยอย่าปกปิดข้อมูล พร้อมกับติดแฮชแท็ก “#59ชีวิตต้องรอด” ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก รวมถึงตำหนิผู้ป่วยที่ปกปิดข้อมูล ทำให้เกิดความเสียหาย โดยบางรายถึงกับอยากให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ปกปิดข้อมูลด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง