ทำเนียบรัฐบาล 10 มิ.ย.-ศบค.พบติดเชื้อใหม่ 2,310 คน เสียชีวิต 43 วันนี้ไม่พบลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ แบ่ง 3 โซนสีจัดรูปแบบการเรียนการสอน รับมือเปิดเทอม 14 มิ.ย.นี้ 4 จังหวัดสีแดงเข้ม ห้ามใช้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนเด็ดขาด
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,310 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 2,208 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 102 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 187,538 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 3,035 ราย สะสม 139,287 ราย กำลังรักษาอยู่ 46,876 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 18,327 ราย และโรงพยาบาลสนาม 28,549 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,295 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 359 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 43 ราย รวมเสียชีวิต 1,375 คน
“ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,310 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,467 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 703 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 102 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 38 ราย สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 43 ราย ชาย 31 ราย หญิง 12 ราย กทม. 27 ราย สมุทรปราการ 5 ราย นครปฐม 4 ราย นครสวรรค์ 2 ราย นนทบุรี ปทุมธานี สงขลา กาญจนบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงมากสุด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง อายุค่ากลาง 72 ปี อายุน้อยสุด 25 ปี อายุมากสุด 91 ปี นอนนานที่สุด 48 วัน” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับ 10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันนี้ คือ 1. กรุงเทพมหานคร 788 ราย 2. ปทุมธานี 308 ราย 3. สมุทรปราการ 209 ราย 4. นนทบุรี 132 ราย 5. ประจวบคีรีขันธ์ 94 ราย 6. สมุทรสาคร 89 ราย 7. ชลบุรี 81 ราย 8. พระนครศรีอยุธยา 43 ราย 9. ราชบุรี 43 ราย 10. ยะลา 42 ราย แนวโน้มในประเทศ กทม. ปริมณฑล ยังคงพบผู้ป่วยอยู่ในจำนวนสูงที่ จ.ปทุมธานี พบผู้ป่วยเพิ่มอีกกว่า 200 ราย ที่คลัสเตอร์โรงงานชำแหละไก่ จ.ชลบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ที่ตลาดบ้านทุ่ง ศรีราชา พบติดเชื้อ 28 ราย และบริษัทเช่ารถยนต์ อีก 8 ราย ฉะเชิงเทรา พบคลัสเตอร์ใหม่โรงงานผลิตถุงยางอนามัย จ.พระนครศรีอยุธยา โรงงานอุปกรณ์ทางการแพทย์ พบเพิ่ม 14 ราย จ.ราชบุรี โรงงานบะหมี่ ที่ อ.บ้านโป่ง พบเพิ่ม 36 ราย ยะลา พบติดเชื้อในชุมชนเพิ่ม 36 ราย จ.สุราษฎร์ธานี พบคลัสเตอร์ที่ตลาดสดหน้าวัดตาขุน อ.เมือง พบติดเชื้อแล้ว 13 ราย ส่วนจุดอื่น ๆ ยังคงเป็นการติดเชื้อในคลัสเตอร์เดิมเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 158,675 ราย หายป่วยสะสม 111,861 ราย เสียชีวิตสะสม 1,281 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้ (10 มิ.ย.) ไม่พบผู้ลักลอบเข้าชายแดนผ่านเส้นทางธรรมชาติ ทุกรายที่มาจากกัมพูชาเข้ามาอย่างถูกต้องผ่านด่านข้ามแดนถาวรทางบก
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงมาตรการเตรียมพร้อมรับการเปิดเทอมของนักเรียนในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ว่า ศบค.ชุดเล็ก แยกพื้นที่จังหวัดเป็นสี สีแดงเข้มหรือแดงเลือดหมู ใน 4 จังหวัด ห้ามจัดการเรียนการสอนแบบ On Site คือห้ามใช้สถานที่โรงเรียนจัดการเรียนการสอนเด็ดขาด โดยให้จัดการเรียนการสอนแบบ 1. On-Demand เรียนผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ 2. Online-เรียนผ่านอินเทอร์เน็ต 3. On-Hand เรียนที่บ้านด้วยเอกสาร เช่น หนังสือแบบฝึกหัดใบงานและ 4. On-Air การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือครูตู้ โดยใช้สื่อของ DLTV เหมาะสำหรับนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือขาดแคลนครู
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขณะที่ 17 จังหวัด สีแดง ศบค.ชุดเล็ก เน้นย้ำสามารถเรียนผสมผสานได้ โดยในส่วนจัดการเรียนการสอน แบบ on site โรงเรียนบางพื้นที่ทำได้ แต่หากให้เปิดเรียนแบบ on site กระทรวง ศธ. ได้กำหนดให้โรงเรียนต้องขออนุญาตเปิดการเรียนการสอนก่อน โดยขอให้ทำเรื่องเสนอไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทั้งโรงเรียนที่พื้นที่สีแดง และพื้นที่สีส้ม 56 จังหวัด ส่วนพื้นที่กทม.มีเพิ่มอีก 1 เวอร์ชั่น โดยทดลองระบบแล้ว มีการเรียนการสอนผ่าน ON School Line มีกลุ่มไลน์เรียนแต่ละห้องหรือรายวิชา เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์
“กรณีการระดมฉีดวัคซีนกันโควิด-19 ให้ครู และบุคลากรการศึกษา โดย ประมาณ 60% ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ทางกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้ฝากข้อห่วงใยถึง คุณครูที่เดินทางเข้ามาสอน ให้สำรวจตัวเองด้วยว่า มีอาการ มีความเสี่ยง หรือเดินทางไปที่สถานที่เสียงมาหรือไม่ หากไม่แน่ใจ ขอให้ต้องมีการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการ” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่โดยสุ่มตรวจทุกตลาด ทุกสถานที่ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 บางจังหวัดอาจมีสถานบ้านพักคนชรา มีคนต่างด้าวจำนวนมากหรืออยู่บริเวณชายแดนประเทศ จึงต้องวางแผนสุ่มตรวจตามความเหมาะสมของแต่ละจังหวัด ส่วน กทม. สุ่มตรวจตลาดแล้ว โดย 289 แห่ง หรือร้อยละ 76% ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ตลาดที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 90 แห่ง สาเหตุที่ไม่ผ่านเพราะไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีจุดล้างมือเพียงพอ ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี ดังนั้น ขอผู้นำชุมชนและประชาชน ให้ความสำคัญตลาดเพื่อทำให้ผ่านเกณฑ์ 100%.-สำนักข่าวไทย