พบ 1 รายบูสเข็ม 4 ไม่อยู่ในกลุ่ม 608 เสียชีวิต

ทำเนียบรัฐบาล 26 พ.ค.- ศบค.แถลงเสียชีวิต 37 ราย พบ 1 รายฉีดวัคซีนเข็มสี่ ไม่ใช่กลุ่ม 608 ย้ำวัคซีนช่วยลดป่วยรุนแรง-ตาย ฉีดแล้วยังต้องระวัง ย้ำผับบาร์พื้นที่เขียว-ฟ้าทำตามมาตรการหลังปลดล็อก 1 มิ.ย.


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด -19 รายใหม่ 4,924 ราย ถ้ารวม ATK คือ 6,344 ราย มีผู้รักษาตัว 46,595 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในระบบรพ.สนาม HI CI 27,440 ราย คิดเป็น 58% และอยู่ใน รพ. 19,155 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอักเสบ 995 ราย คิดเป็น 2.13% สะท้อนให้เห็นว่าการติดเชื้อระยะหลัง แม้จำนวนไม่ได้ลดลงมาก แต่ผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่อาการน้อย ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ 503 ราย

“เสียชีวิต 37 ราย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 รวม 8,183 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มีโรคประจำตัวหรือหญิงมีครรภ์ ปัจจัยเสี่ยงคือรับวัคซีนไม่ครบ โดยวันนี้มี 15 รายที่ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว กลุ่มที่รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ เช่น เข็มเดียว สองเข็ม แต่ยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือรับเข็มกระตุ้นไม่นานพอ ยังเกิดภูมิไม่เต็มที่ รวมเป็น 85.95% มี 1 รายที่เสียชีวิตวันนี้ไม่อยู่ในกลุ่ม 608 รับวัคซีนบูทเตอร์ครบเข็ม 4 แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าการระมัดระวังมาตรการส่วนบุคคลจำเป็นอย่างยิ่ง คนจำนวนมากเชื่อว่าฉีดวัคซีนครบแล้ว สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว สามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องระมัดระวัง เน้นย้ำว่าแม้ฉีดแล้วก็มีโอกาสติดเชื้อได้ แต่ทั้งโลกมีรายงานตรงกันคือวัคซีนจะลดอัตราป่วยหนักและเสียชีวิต ต้องเน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคลเข้มงวด”  พญ.อภิสมัย กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อในประเทศสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.กทม. 2,017 ราย 2.บุรีรัมย์ 145 ราย 3.นนทบุรี 118 ราย 4.สมุทรสาคร 110 ราย 5.ขอนแก่น 99 ราย 6.สมุทรปราการ 91 ราย 7.ชลบุรี 88 ราย 8.สกลนคร 88 ราย 9.ร้อยเอ็ด 86 ราย และ 10.นครพนม 74 ราย สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยอาการรุนแรงอาการหนักมากที่สุดคือ 1.กรุงเทพฯ 98 คน 2.อุบลราชธานี 65 คน 3.นครราชสีมา 49 คน 4.อุดรธานี 46 คน 5.สมุทรปราการ 42 คน 6.นครสวรรค์ 36 คน 7.สุพรรณบุรี 30 คน 8.ชัยภูมิ 30 คน 9.ศรีสะเกษ 26 คน 10.จันทบุรี 26 คน สำหรับอัตราครองเตียงเฉลี่ยอยู่ที่ 13.8%  ยังมีเตียงว่างรองรับ แต่ขอให้ดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยไม่ติดเชื้อ หรือติดเชื้อแล้วอยู่ในกลุ่มรับวัคซีนอาการไม่หนัก กักตัวที่บ้านได้ จะช่วยลดการใช้เตียงใน รพ.

“วันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะผ่อนคลายมาตรการ ให้สถานบริการ สถานประกอบการคล้าสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ฯลฯ สามารถผ่อนปรนเปิดบริการได้ ต้องย้ำว่าหลายพื้นที่เริ่มเฉลิมฉลองแล้วที่จะกลับมาเปิดได้ แต่ต้องย้ำว่าศบค.อนุญาตในพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยวและสีเขียวเท่านั้น ยังไม่อนุญาตพื้นที่สีเหลืองเฝ้าระวัง 46 จังหวัด เปิดบริการ เพราะหลายจังหวัดมีตัวเลขขยับขึ้นสูง เช่น สมุทรสาคร ขอนแก่น สกลนคร ร้อยเอ็ด เป็นต้น ยังมีรายงานติดเชื้อสูง บางพื้นที่ปรับเป็นสีเขียว สีฟ้าแล้วก็ตามต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นด้วย” พญ.อภิสมัย  กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า แม้พื้นที่สีฟ้า สีเขียวจะเปิดให้บริการได้ แต่ยังจำกัดเวลาไม่ให้เกิน 24.00 น. และงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พนักงานที่ใกล้ชิดลูกค้าต้องสวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ แม้จะเป็นข่าวดี เพราะสถานบริการปิดมานาน แต่ที่ผ่านมามีรายงานมายังศบค.ต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งเปิดบริการไปบ้างแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต สำหรับพฤติกรรมคือปรับมาเป็นร้านอาหาร กึ่งร้านอาหาร ใช้แก้วพลาสติกเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราทราบและเห็นใจจึงพยายามหาทางออกที่นุ่มนวล อาจว่ากล่าวตักเตือน ทำความเข้าใจ ซึ่งต้องขอความร่วมมือ


“จากนี้พื้นที่ฟ้าและเขียวสามารถเปิดได้อย่างทางการ ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่เปิดผับบาร์คาราโอเกะ ยังต้องเข้มมาตรการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ต้องปลอดภัย รับวัคซีนเข็มสามครบ 100% ประเมินความเสี่ยงบุคลากรทุกวัน ตรวจสอบตัวเอง มีไข้ มีอาการผิดปกติหรือไม่ วัดอุณหภูมิ ผู้ประกอบการตรวจ ATK ทุก 7 วัน ส่วนประชาชนต้องร่วมมือปฏิบัติตามด้วย เพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าได้ไม่สะดุด ถ้าร้านขอดูหลักฐานการฉีดวัคซีนก็ควรให้ความร่วมมือด้วย หากมีโรคประจำตัวขอให้ใจเย็นก่อน เพราะช่วงเพิ่งเปิดยังมีความเสี่ยงอยู่” พญ.อภิสมัย  กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันที่ 23 พ.ค. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดประชุมวางแผนเตรียมการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.คาดการณ์ว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจะเดินหน้าเต็มที่ มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จับมือภาคเอกชน โรงแรม กลุ่มนำเที่ยว เพื่อหาทางส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าเดินทางมาจากประเทศไหน แม้บ้านเขาจะผ่อนคลายมาตรการมากแล้ว แต่เมื่อเข้ามาต้องทำตามมาตรการของไทยด้วย

“ทุกสายการบินจะประกาศชี้แจงให้นักท่องเที่ยวเข้าใจมาตรการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ บ้านเรายังเข้มงวด และหลายโรงแรม สถานประกอบการร้านอาหารต่าง ๆ ร่วมมืออย่างดี จัดการมาตรการความปลอดภัย COVID Free Setting ฉีดวัคซีน สภาพแวดล้อมถูกหลักอนามัย ช่วยกันติดป้ายความร่วมมือหรือตักเตือนผู้เดินทางว่าหากไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ทำให้ตัวเขามีความเสี่ยง พนักงานเรา คนไทยมีความเสี่ยง สามารถปฏิเสธไม่ให้บริการได้ ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาช่วยตำรวจท่องเที่ยวด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]