พบ 1 รายบูสเข็ม 4 ไม่อยู่ในกลุ่ม 608 เสียชีวิต

ทำเนียบรัฐบาล 26 พ.ค.- ศบค.แถลงเสียชีวิต 37 ราย พบ 1 รายฉีดวัคซีนเข็มสี่ ไม่ใช่กลุ่ม 608 ย้ำวัคซีนช่วยลดป่วยรุนแรง-ตาย ฉีดแล้วยังต้องระวัง ย้ำผับบาร์พื้นที่เขียว-ฟ้าทำตามมาตรการหลังปลดล็อก 1 มิ.ย.


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด -19 รายใหม่ 4,924 ราย ถ้ารวม ATK คือ 6,344 ราย มีผู้รักษาตัว 46,595 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในระบบรพ.สนาม HI CI 27,440 ราย คิดเป็น 58% และอยู่ใน รพ. 19,155 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอักเสบ 995 ราย คิดเป็น 2.13% สะท้อนให้เห็นว่าการติดเชื้อระยะหลัง แม้จำนวนไม่ได้ลดลงมาก แต่ผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่อาการน้อย ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ 503 ราย

“เสียชีวิต 37 ราย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 รวม 8,183 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มีโรคประจำตัวหรือหญิงมีครรภ์ ปัจจัยเสี่ยงคือรับวัคซีนไม่ครบ โดยวันนี้มี 15 รายที่ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว กลุ่มที่รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ เช่น เข็มเดียว สองเข็ม แต่ยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือรับเข็มกระตุ้นไม่นานพอ ยังเกิดภูมิไม่เต็มที่ รวมเป็น 85.95% มี 1 รายที่เสียชีวิตวันนี้ไม่อยู่ในกลุ่ม 608 รับวัคซีนบูทเตอร์ครบเข็ม 4 แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าการระมัดระวังมาตรการส่วนบุคคลจำเป็นอย่างยิ่ง คนจำนวนมากเชื่อว่าฉีดวัคซีนครบแล้ว สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว สามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องระมัดระวัง เน้นย้ำว่าแม้ฉีดแล้วก็มีโอกาสติดเชื้อได้ แต่ทั้งโลกมีรายงานตรงกันคือวัคซีนจะลดอัตราป่วยหนักและเสียชีวิต ต้องเน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคลเข้มงวด”  พญ.อภิสมัย กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อในประเทศสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.กทม. 2,017 ราย 2.บุรีรัมย์ 145 ราย 3.นนทบุรี 118 ราย 4.สมุทรสาคร 110 ราย 5.ขอนแก่น 99 ราย 6.สมุทรปราการ 91 ราย 7.ชลบุรี 88 ราย 8.สกลนคร 88 ราย 9.ร้อยเอ็ด 86 ราย และ 10.นครพนม 74 ราย สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยอาการรุนแรงอาการหนักมากที่สุดคือ 1.กรุงเทพฯ 98 คน 2.อุบลราชธานี 65 คน 3.นครราชสีมา 49 คน 4.อุดรธานี 46 คน 5.สมุทรปราการ 42 คน 6.นครสวรรค์ 36 คน 7.สุพรรณบุรี 30 คน 8.ชัยภูมิ 30 คน 9.ศรีสะเกษ 26 คน 10.จันทบุรี 26 คน สำหรับอัตราครองเตียงเฉลี่ยอยู่ที่ 13.8%  ยังมีเตียงว่างรองรับ แต่ขอให้ดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยไม่ติดเชื้อ หรือติดเชื้อแล้วอยู่ในกลุ่มรับวัคซีนอาการไม่หนัก กักตัวที่บ้านได้ จะช่วยลดการใช้เตียงใน รพ.

“วันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะผ่อนคลายมาตรการ ให้สถานบริการ สถานประกอบการคล้าสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ฯลฯ สามารถผ่อนปรนเปิดบริการได้ ต้องย้ำว่าหลายพื้นที่เริ่มเฉลิมฉลองแล้วที่จะกลับมาเปิดได้ แต่ต้องย้ำว่าศบค.อนุญาตในพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยวและสีเขียวเท่านั้น ยังไม่อนุญาตพื้นที่สีเหลืองเฝ้าระวัง 46 จังหวัด เปิดบริการ เพราะหลายจังหวัดมีตัวเลขขยับขึ้นสูง เช่น สมุทรสาคร ขอนแก่น สกลนคร ร้อยเอ็ด เป็นต้น ยังมีรายงานติดเชื้อสูง บางพื้นที่ปรับเป็นสีเขียว สีฟ้าแล้วก็ตามต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นด้วย” พญ.อภิสมัย  กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า แม้พื้นที่สีฟ้า สีเขียวจะเปิดให้บริการได้ แต่ยังจำกัดเวลาไม่ให้เกิน 24.00 น. และงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พนักงานที่ใกล้ชิดลูกค้าต้องสวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ แม้จะเป็นข่าวดี เพราะสถานบริการปิดมานาน แต่ที่ผ่านมามีรายงานมายังศบค.ต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งเปิดบริการไปบ้างแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต สำหรับพฤติกรรมคือปรับมาเป็นร้านอาหาร กึ่งร้านอาหาร ใช้แก้วพลาสติกเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราทราบและเห็นใจจึงพยายามหาทางออกที่นุ่มนวล อาจว่ากล่าวตักเตือน ทำความเข้าใจ ซึ่งต้องขอความร่วมมือ


“จากนี้พื้นที่ฟ้าและเขียวสามารถเปิดได้อย่างทางการ ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่เปิดผับบาร์คาราโอเกะ ยังต้องเข้มมาตรการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ต้องปลอดภัย รับวัคซีนเข็มสามครบ 100% ประเมินความเสี่ยงบุคลากรทุกวัน ตรวจสอบตัวเอง มีไข้ มีอาการผิดปกติหรือไม่ วัดอุณหภูมิ ผู้ประกอบการตรวจ ATK ทุก 7 วัน ส่วนประชาชนต้องร่วมมือปฏิบัติตามด้วย เพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าได้ไม่สะดุด ถ้าร้านขอดูหลักฐานการฉีดวัคซีนก็ควรให้ความร่วมมือด้วย หากมีโรคประจำตัวขอให้ใจเย็นก่อน เพราะช่วงเพิ่งเปิดยังมีความเสี่ยงอยู่” พญ.อภิสมัย  กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันที่ 23 พ.ค. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดประชุมวางแผนเตรียมการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.คาดการณ์ว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจะเดินหน้าเต็มที่ มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จับมือภาคเอกชน โรงแรม กลุ่มนำเที่ยว เพื่อหาทางส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าเดินทางมาจากประเทศไหน แม้บ้านเขาจะผ่อนคลายมาตรการมากแล้ว แต่เมื่อเข้ามาต้องทำตามมาตรการของไทยด้วย

“ทุกสายการบินจะประกาศชี้แจงให้นักท่องเที่ยวเข้าใจมาตรการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ บ้านเรายังเข้มงวด และหลายโรงแรม สถานประกอบการร้านอาหารต่าง ๆ ร่วมมืออย่างดี จัดการมาตรการความปลอดภัย COVID Free Setting ฉีดวัคซีน สภาพแวดล้อมถูกหลักอนามัย ช่วยกันติดป้ายความร่วมมือหรือตักเตือนผู้เดินทางว่าหากไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ทำให้ตัวเขามีความเสี่ยง พนักงานเรา คนไทยมีความเสี่ยง สามารถปฏิเสธไม่ให้บริการได้ ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาช่วยตำรวจท่องเที่ยวด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย