โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเจ็บป่วยรุนแรง เสียชีวิต

ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.พ.-ศบค. เผยยอดเสียชีวิต โควิด19 วันนี้ 42 ราย พบไม่ได้ฉีดวัคซีนถึง 26 ราย ลักลอบเข้าเมืองติด 17 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเจ็บป่วย รุนแรงเสียชีวิต


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 22,311 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 22,175 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 136 ราย ติดเชื้อในประเทศแยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 21,958 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 190 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 27 ราย  รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 2,891,927 ราย อย่างไรก็ตาม หากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 21,497 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 43,808 ราย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 42 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 22,933 ราย หายป่วยอีก 17,470 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,655,349 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 213,645 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.83,479 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 130,166 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 980 ราย มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 280 ราย สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 42 ราย เป็นคนไทย 41 ราย ออสเตรีย 1 ราย เป็นเพศชาย 23 ราย เพศหญิง 19 ราย อายุ 2-102 ปี พบทุกภาคทั่วไทย มากสุดใน กทม. 9 ราย


“ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตพบ 29 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 11 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบ 1 ราย โดยพบว่า 26 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดเชื้อจากบุคคลใกล้ชิด หรือคนรู้จัก และอาศัยในพื้นที่เสี่ยง” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น