ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว 12 พ.ค.-นายกรัฐมนตรีตรวจความพร้อมสถานที่ฉีดวัคซีนนอก รพ. ประกาศหลังโควิด-19 ประเทศไทยจะดีขึ้น มอบ “สธ.-มท.” หาแนวทางกระตุ้นคนให้ร่วมมือฉีดวัคซีน เผยเตรียมผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการร้านค้า เตือนอย่าแชร์ข่าวเท็จ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ที่บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักอนามัย สำนักการแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ปและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมว่า การจัดจุดให้บริการฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาลเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลรามาธิบดี สิ่งสำคัญคือจะต้องทำลายความกลัว ความหวาดวิตกในการฉีดวัคซีนของประชาชน พร้อมยืนยันว่าวัคซีนที่นำเข้ามีการตรวจสอบมาตรฐานอย่างเข้มงวด อีกทั้งในเดือนมิถุนายนวัคซีนทยอยกำลังทยอยเข้ามาอีกจำนวนมากด้วย จึงต้องเดินหน้าฉีดวัคซีนให้มากขึ้น และยกให้การจัดหาและการฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีนว่า ประเทศไทยเป็นของทุกคน เรื่องวัคซีนขอให้ดูข่าวที่เป็นประโยชน์ ข่าวที่ไม่จริงอย่าแชร์ต่อ ขอให้พยามฟังข้อมูลที่เป็นเรื่องจริงจากทางสาธารณสุข ขอให้ทุกคนช่วยกันเพราะนี่คือทีมประเทศไทย ทำเพื่อประเทศไทย
“ขอให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์การฉีดวัคซีน แม้ว่าในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีวัคซีนที่จำกัด แต่ในเดือนมิถุนายน จะเข้ามามาก จะทยอยมาเรื่อยๆ ต้องชื่นชมกระทรวงสาธารณสุขที่พยามบริหารจัดการวัคซีนอย่างเต็มที่ และยี่ห้ออื่นๆ จะเข้ามาช่วงปลายปี 2564 ตามความร่วมมือของภาคเอกชน ส่วนการฉีดวัคซีนในอนาคตอาจจะปรับปรุงตามหน้างาน สำหรับผู้ที่จะเข้ามาฉีดวัคซีน ที่บางคนอาจวอล์กอินเข้ามาแล้วไม่ได้ฉีด เพราะช่วงนี้ยังต้องให้ลงทะเบียนกลุ่มเสี่ยงก่อน ทั้งครู เจ้าหน้าที่ขนส่ง และบริกรร้านอาหาร ซึ่งจะมีการปรับตามสถานการณ์ในอนาคต”นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ขอให้เห็นใจทุกฝ่ายที่ทำงาน ทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่แทบไม่ได้พักถือเป็นผู้เสียสละ เชื่อมั่นว่าหลังโควิด-19 คลี่คลายประเทศไทยจะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะตลอดเวลารัฐบาลทำทุกอย่าง ไม่เฉพาะแก้ปัญหาเรื่องโควิด-19 เท่านั้น แต่ได้เตรียมการเรื่องเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย ดังนั้นเวลานี้ทุกคนต้องการความเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในช่วงเวลานี้ต้องขออภัยประชาชนที่ต้องเดือดร้อนจากมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่กำหนดเวลาสั่งปิดสถานบริการต่างๆ เพื่อความปลอดภัย แต่สิ่งที่ทำถือว่ามีความจำเป็น เพราะเป็นการหยุดการแพร่เชื้อ โดยในเร็วๆ นี้อาจมีมาตรการผ่อนคลายให้กับร้านค้าและผู้ประกอบการ ส่วนเรื่องการเยียวยาได้มอบให้กระทรวงแรงงานเข้าไปเยียวยาลูกจ้างตามมาตรา 33 แม้จำนวนเงินจะไม่มาก แต่รัฐก็จะจัดสรรไปดูแลให้ และยังได้ให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ไปหารือร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้เชิญชวน ชักจูงให้ประชาชนมาร่วมมือกันฉีดวัคซีนให้มากขึ้น เพราะตอนนี้ยอมรับว่ามีข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริงมาก ดังนั้นจากนี้รัฐบาลจะดำเนินการจริงจังกับผู้ที่สร้างข้อมูลเท็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานที่ฉีดวัคนนอกโรงพยาบาล หรือ “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” ณ บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เป็น 1 ใน 14 แห่ง โดยความร่วมมือบริการวัคซีนโควิด-19 ระหว่างกรุงเทพมหานคร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลรามาธิบดี มีความพร้อมในการให้บริการวัคนตามขั้นตอนต่างๆ ครบถ้วน อาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดัน จุดฉีดวัคชีน และจุดพักสังเกตอาการหลังการฉีด สามารถให้บริการ 1,000 คน ต่อวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. กลุ่มเป้าหมายแรกของการให้บริการเป็นกลุ่มบุคลากรด่านหน้า ที่ต้องปฏิบัติงานในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและกลุ่มที่มีอาชีพเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมากซึ่งได้รับการลงทะเบียนกับสำนักอนามัย กทม. แล้ว.- สำนักข่าวไทย