ราชทัณฑ์พบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 2,835 ราย

กรมราชทัณฑ์ 12 พ.ค.-กรมราชทัณฑ์ ตรวจหาเชื้อโควิดในผู้ต้องขัง เชิงรุกแบบ 100% พบติดเชื้อ 2,835 ราย เหตุจากนักโทษเข้าใหม่ ยันรับมือไหวยกตัวอย่างกรณีเรือนจำนราธิวาส


กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงข่าวกรณีมีสื่อตั้งข้อสงสัยว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำได้อย่างไรและมีการปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์การรักษาผู้ติดเชื้อ หรือไม่นั้น ขอเรียนว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 มีการกระจายเป็นวงกว้างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงเรือนจำและทัณฑสถานที่ต้องรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ และนำผู้ต้องขังออกศาลอยู่เสมอ จึงอาจมีการหลุดรอดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำได้

อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้ป้องกันอย่างเต็มที่ด้วยมาตรการเชิงรุก คือแยกกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างน้อย 21 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง ก่อนผู้ต้องขังพ้นระยะแยกกักโรค ซึ่งการตรวจพบการติดเชื้อของผู้ต้องขังที่ผ่านมา ถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับ ผู้ติดเชื้อ ทั่วประเทศ


สำหรับผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อจะได้รับการรักษาโดยการให้ยา Favipiraviaทั้งในโรงพยาบาลสนามเรือนจำและโรงพยาบาลแม่ข่ายตามลักษณะอาการป่วยของแต่ละราย

โดยกรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เรือนจำทัณฑสถานทุกแห่งมีมาตรการอย่างเคร่งครัดเพราะมีการควบคุม บับเบิ้ล แอนด์ซีล เช่น กรณีเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อก็สามารถดูแลรักษาจนหาย และไม่มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ในเรือนจำอีก

กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจเชิงรุกเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง100%ซึ่งได้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่พบการติดเชื้อ ได้แก่ทัณฑสถานหญิงกลาง มียอดผู้ติดเชื้อรวม1,040 ราย และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,795 ราย ซึ่งทุกรายอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากในบางรายมีอาการหนักจะได้มีการย้ายออก เพื่อรับการรักษายังโรงพยาบาลภายนอก เชื่อว่ามาตรฐานการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์กับกระทรวงสาธารณสุข จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด–19 ได้ ไม่ขยายตัวไปสู่วงกว้างได้ เวลานี้ได้มีแดนกักโรคและโรงพยาบาลสนาม โดยมีแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และการให้ยารักษาและการดูแลทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของสาธารณสุข รวมทั้งมีการวางแผนเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังด้วย อยู่ระหว่างรอการจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง


ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุกในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ซึ่งในส่วนทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัส โควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ไปแล้วกว่า 17,000 ครั้ง ทำให้คัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาได้รวดเร็ว สามารถแยกผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงออกมากักตัว เพื่อสังเกตอาการได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาช่วยดูแลและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายแก๊งหลอก “ชาล็อต ออสติน”

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพกับดาราดัง ใช้ กม.สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพประวัติศาสตร์กับดาราดัง ประกาศยินดีไทยใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดัน ลั่นวันนี้สำเร็จแล้ว นี่คือความภูมิใจของคนไทย

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา