นครราชสีมา 4 พ.ค.-เอาจริง! เจ้าหน้าที่แจ้งความเอาผิดหนุ่มยูกันดา และภรรยา ปกปิดข้อมูลติดเชื้อโควิด-19 จนเกิดความเสียหายต่อระบบสาธารณสุข
เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง พร้อมด้วย นายชาลี ทะนาไธสง นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.โรงพยาบาลเสิงสาง เข้าแจ้งความดำเนินคดีพนักงานสอบสวน สภ.เสิงสาง เพื่อเอาผิดหญิงสาววัย 22 ปี ชาวบ้านตำบลโนนสมบูรณ์ และสามีชาวยูกันดา อายุ 32 ปี ข้อหาจงใจปกปิดข้อมูล หลังทั้ง 2 ราย เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อขอเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ปกปิดข้อมูล จนเป็นเหตุให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องกักตัว 2 คน และเกิดความเสียหายต่อระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลเสิงสาง โดยถือเป็นครั้งแรกของจังหวัดที่มีการเอาผิดกับผู้ปกปิดข้อมูล
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน สามีภรรยาคู่นี้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร และเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจหาเชื้อ แต่ไม่ยอมบอกข้อมูลว่าเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อ เนื่องจากวันที่ 27 เมษายน ได้ไปรับประทานอาหารร่วมกับพี่ชายของสามีที่บ้านพักในกรุงเทพมหานคร ซึ่งทราบภายหลังว่าพี่ชายของสามีติดเชื้อ จากนั้นได้เดินทางมาขอรับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเสิงสาง และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยง ก่อนยอมรับในภายหลัง และตรวจหาเชื้อ กระทั่งพบว่าทั้งคู่ติดเชื้อโควิด-19 ในเวลาต่อมา
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ฐานจงใจปกปิดข้อมูลอันเป็นเท็จ อันเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและการควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ซึ่งจะดำเนินคดีหลังทั้งคู่หายดีแล้ว.-สำนักข่าวไทย