สธ. 29 เม.ย.- “หมอทวี” แจงประโยชน์วัคซีนโควิดคุ้มค่าควรฉีด ลดรุนแรง ลดตาย พร้อมแจงผลกระทบจากวัคซีน ทั้งซิโนแวค-แอสตราฯ
นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในขณะนี้เป็นการฉีดในภาวะฉุกเฉิน และยังต้องมุ่งหน้าต่อไป เพราะมีประโยชน์ สร้างภูมิคุ้มกัน ลดอัตราการเสียชีวิตและความรุนแรงของโรค โดยขณะนี้ไทยฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณร้อยละ 1.7 ของประชากร โดยวัคซีนที่ใช้ในการฉีด มีทั้งซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ซึ่งมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่แตกต่างกัน ทั้งการรับวัคซีนในเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2
ขณะเดียวกัน ปัญหาเชื้อกลายพันธุ์ยังไม่มีผลกับวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ แม้ว่าเทียบกับไวรัสตัวเดิมที่ป้องกันได้ร้อยละ 80 แต่ก็ต้องถือว่าวัคซีน ทั้งซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ยังมีผลในการป้องกันโรคได้ดี เพราะหากไม่รับวัคซีน ติดเชื้ออาการรุนแรง 1 คน ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล ทั้งยา เวชภัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลจำนวนมาก
นพ.ทวี กล่าวว่า ส่วนเรื่องอาการแขนขาชาอ่อนแรงในซิโนแวค คิดว่าอาจเป็นไปได้ แต่มีปัจจัยร่วมกับการทำงานที่หนัก ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เกิดความวิตกกังวล โดยพบในเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่ทำงานหนักและเหนื่อย ส่วนเรื่องผลกระทบของวัคซีนแอสตราเซเนกา จากลิ่มเลือดอุดตัน โอกาสเกิดในคนไทยน้อยกว่าคนชาติยุโรปและแอฟริกา เพราะปัจจัยเชื้อชาติ โดยคนเอเชียพบการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในการฉีดวัคซีน พบได้ 4 ใน 1 ล้านโดส แต่หากป่วยโควิด โอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ถึง 1 ใน 8 ดังนั้น หากเปรียบเทียบการรับวัคซีนย่อมดีกว่า เพราะยังต้องอยู่กับสถานะนี้ไปอีกนาน
นพ.ทวี กล่าวว่า ส่วนในหญิงตั้งครรภ์แก่ในต่างประเทศ พบว่า หากติดเชื้อโควิด มีโอกาสเสียชีวิต 22 เท่า เพราะเด็กในครรภ์จะมาเบียดปอด ทำให้การหายใจไม่สะดวก และอาจคลอดก่อนกำหนด ส่วนการฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ยังไม่แนะนำ ส่วนเรื่องปัญหาการแพ้วัคซีนในคนไทย กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ยังไม่พบใครเสียชีวิตจากวัคซีน มีแค่อาการแพ้ 7 คน.-สำนักข่าวไทย