ตำรวจและหลังยุติการชุมนุมของกลุ่มราษฎร กทม. 14 ก.พ. – กรณีการทำกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มราษฎร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำราษฎร 4 คน ที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และมีการเคลื่อนขบวนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 ก.พ.) มาทางถนนราชดำเนินจนมาถึงศาลหลักเมือง ระหว่างทางก็มีการปะทะกันเล็กน้อยที่สะพานผ่านพิภพลีลาศ ก่อนที่ตำรวจตรึงกำลังสะพานผ่านพิภพลีลาศ และมีตำรวจ สน.พระราชวัง ประกาศสั่งยุติการชุมนุม พร้อมเปิดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุรุนแรง ด้านโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพและคลิปในเหตุดังกล่าว มาไล่เรียงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหลังยุติชุมนุม
วันที่ 13 ก.พ. 2564
เวลา 20.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลฎีกา ใกล้ศาลหลักเมือง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมราษฎรกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเจรจาระหว่างตำรวจกับแกนนำอีกครั้ง
หลังได้ข้อยุติการเจรจา
เวลา 20.30 น. แกนนำกลุ่มราษฎรประกาศให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายทยอยเดินทางกลับ
แต่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนไม่ยอมแยกย้าย เรียกร้องให้กลับมารวมตัวใหม่ ระหว่างนั้นมีการปาระเบิดปิงปองหลายลูก หน้าแนวป้องกันของตำรวจ มีการขว้างปาสิ่งของเป็นระยะๆ
เวลา 21.00น. ตำรวจต้องประกาศให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายภายใน 30 นาที แต่หลังประกาศกลับมีการขว้างปาระเบิดปิงปองมากขึ้น จนต้องประกาศเตรียมใช้รถฉีดน้ำ และเตรียมชุดเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม
เวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่จึงกดดันกลุ่มผู้ชุมนุมที่เหลือออกไปได้ทั้งหมด ระหว่างการดำเนินการ ก็มีการควบคุมผู้ชุมนุมอย่างน้อย 6 คน ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจฯ ยืนยันว่าปฏิบัติการที่เกิดขึ้นตำรวจไม่ได้ใช้กำลังสลายการชุมนุม แต่มีการขว้างปาวัตถุระเบิด ก้อนหิน ขวดแก้ว จากฝั่งผู้ชุมนุมจำนวนหลายครั้ง มีตำรวจบาดเจ็บระหว่างการปฏิบัติหน้าที่อย่างน้อย 20 นาย ที่ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งถูกขว้างปาของแข็ง และที่ถูกสะเก็ดระเบิด ตำรวจมีการจับกุมผู้ชุมนุม 7-8 คนที่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า ส่งดำเนินคดีทั้งที่ สน.นางเลิ้ง และ สน.ชนะสงคราม อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา
เหตุความวุ่นวายหลังยุติการชุมนุมของกลุ่มราษฎร มีกลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้ายกัน จนมีผู้บาดเจ็บจากการถูกยิง 1 คน ขณะที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน
ด้านพันตำรวจเอกนิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการ สน.นางเลิ้ง เผยอยู่ระหว่างการพิจารณาแยกการดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แบ่งเป็นคดีที่มีการไล่ยิงกันที่บริเวณร้านอาหารหน้าร้านสะดวกซื้อ ส่วนเหตุความวุ่นวายหลังการจับกุม ต้องรายงานข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเรื่องที่ผู้ชุมนุมอ้างว่าเห็นตำรวจใช้อาวุธปืนยิงนั้น ยังไม่ขอสรุปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าตำรวจผู้ปฏิบัติไม่ก่อเหตุยิงโดยไม่มีเหตุจำเป็น และถ้าต้องยิง ก็น่าจะยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุมากกว่า.-สำนักข่าวไทย
ด้านโลกออนไลน์ พบแฮชแท็ก #ตำรวจกระทืบหมอ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 เช้าวันนี้ หลังชาวเนตแห่แชร์ภาพและคลิปในเหตุการณ์ และมีภาพคล้ายทีมงานอาสาสมัครทางการแพทย์ใส่กั๊กสีเขียวนอนอยู่ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ (โพสต์โดย @soezeya ช่างภาพจากรอยเตอร์) โพสต์ต้นฉบับ > https://twitter.com/soezeya/status/1360599110890385408?s=20
