ฉะเชิงเทรา 8 ก.พ.-“เจ้าแข็งแกร่ง-เจ้าสิบล้อ” ช้างป่าเขาอ่างฤาไน สงบศึกคืนดี ใช้งวงสะกิดกัน ก่อนเดินกลับป่า หลังเปิดศึกชิงนาง ตีกันฝุ่นตลบ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
วินาทีระทึก เมื่อช้างป่า “เจ้าแข็งแกร่ง” บุกเข้าถิ่น หลังวัดคลองมะหาด ดักรอช้างป่าพังสีดอฉายา “เจ้าสิบล้อ” เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ผู้นำชุมชนร่วมลุ้นระทึกกว่าครึ่งชั่วโมง หลังจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เกิดศึกชิงนาง และชิงพื้นที่หากิน ทั้งคู่ตีกันฝุ่นตลบ กลางชุมชนบ้านคลองมะหาดมาแล้ว
เมื่อเวลาช่วงบ่ายวานนี้ (7 ก.พ.) นายวชิร วงศ์ษา หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน นำเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ร่วมกับ ผู้นำชุมชน รุดตรวจสอบ หลังรับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างป่า พบช้างป่า เจ้าแข็งแกร่ง (ช้างตัวเล็กกว่า) บุกเข้าไปถึงถิ่น หลังวัดคลองมะหาด คล้ายจะดักรอช้างป่าพังสีดอฉายา เจ้าสิบล้อ (ช้างตัวใหญ่) ที่กำลังเดินออกมาจากชายป่าฝั่งตรงข้ามด้านป่าโปร่ง
ต่อมาเมื่อไปถึงบริเวณแนวชายป่าด้านหลังวัดคลองมะหาด ม.14 บ้านคลองมะหาด ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จึงให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและสังเกตการณ์ห่างๆ ในระยะ 150 เมตรไว้ก่อน หวั่นอาจเกิดเหตุเหมือนเมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เกิดศึกชิงนาง และชิงพื้นที่หากินในอาการตกมันของเจ้าแข็งแกร่งปะทะเจ้าสิบล้อ ในแบบฝุ่นตลบ
และเมื่อช้างป่าพังสีดอฉายาเจ้าสิบล้อ เดินมาถึง ปรากฏว่า เจ้าแข็งแกร่งส่งเสียงร้องเล็กๆ พร้อมโยกหัว สะบัดงวงทักทาย คล้ายจะขอคืนดี แต่เจ้าสิบล้อทำเมินไม่สนใจ เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าสิบล้อ ยอมใจเจ้าแข็งแกร่ง ด้วยการที่ช้างทั้งสองตัวได้เอางวงสะกิด และลัด ดูคล้ายๆ เหมือนคนจับมือกัน สร้างความโล่งใจและความประทับใจให้กับเจ้าหน้าที่ และผู้นำชุมชน ก่อนที่ช้างป่าฉายาเจ้าแข็งแกร่งและช้างป่าพังสีดอฉายาเจ้าสิบล้อจะพากันเดินกลับเข้าไปในป่า ในแบบมิตรสหายต่อไป
สำหรับทั้ง เจ้าแข็งแกร่ง และ เจ้าสิบล้อ ก่อนจะจับงวงคืนดีกัน เคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่บ้านหนองปรือกันยาง อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา “เจ้าสิบล้อ” มีขนาดสูงใหญ่ ยืนบนถนนกลางชุมชนบ้านคลองมะหาด ต.ท่าตะเกียบ เพื่อป้องกันไม่ให้ “เจ้าแข็งแกร่ง” ที่กำลังตกมันข้ามเขตจากป่าด้านหลังวัดบ้านคลองมะหาด เข้ามาหาตัวเมียในฝูง ทั้งสองตัวปะทะกันเดือดใช้งวง หัว ลำตัวเข้าใส่กันชนิดฝุ่นตลบ นานกว่า 10 นาที จนสุดท้าย “เจ้าสิบล้อ” สู้ไม่ไหวถอยร่นไปไม่เป็นท่า.-สำนักข่าวไทย