กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตจตุจักร

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตจตุจักร อย่างเป็นทางการ พร้อมถอนกำลัง เครื่องจักรออกจากพื้นที่อาคารตึก สตง.ถล่ม มีผลอย่างเป็นทางการ 15 พ.ค.นี้ ขณะตำรวจยังขออายัดพื้นที่ เก็บหลักฐานเพิ่ม ถึงสิ้นเดือนนี้


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และตัวแทนกรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หน่วยงานภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตจตุจักร กับภารกิจการค้นหาผู้ประสบภัยและกู้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ที่พังถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคมที่ แถลงข่าวหลังการประชุมร่วมกัน

นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ กล่าวว่า จากปฏิบัติการที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากทั้งหลายฝ่ายทั้งรัฐเอกชนและหน่วยงานอาสาทุกทีม ที่ปฏิบัติการ รวมทั้งหมด 48 วัน จนถึงปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติจึงขอปิดศูนย์บัญชาการอย่างเป็นทางการให้มีผลในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น. โดยระหว่างนี้จะมีการเก็บวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมด ในช่วงวันที่ 13 พฤษภาคมถึง 15 พฤษภาคม จะมีการขนย้ายเครื่องจักรหนักและตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งอาจจะกระทบกับการสัญจรถนนบริเวณนี้จึงขออภัยในความไม่สะดวก


ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่าขั้นตอนหลังจากนี้กรุงเทพมหานครก็จะทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการปิดศูนย์อย่างเป็นทางการ หากมีขั้นตอนอื่น ๆ โดยรอบในพื้นที่ให้ช่วยเหลือต่อไปก็พร้อมให้การสนับสนุน

พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า ในส่วนของที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ที่ทำการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแต่วันแรก มีศพเข้ามา 89 ราย แบ่งออกเป็น 80 ราย ที่เป็นร่าง และ 9 ราย ที่เป็นชิ้นส่วน ในปัจจุบันได้มีการพิสูจเอกลักษณ์บุคคลไปแล้ว 72 ราย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการพิสูจน์จากชิ้นส่วน 200 กว่าชิ้น ก็มีรายชื่อเพิ่มขึ้นมาได้อีก 14 ราย และจะมีการปล่อยศพยอดปัจจุบันรวมจนถึงวันนี้ 86 ราย ส่วนญาติไม่ต้องมีความกังวลหากมีการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จาก สน.บางซื่อ จะติดต่อกลับไป

ส่วนการดำเนินการที่เหลือยังมีอีก2 ส่วน คือชิ้นส่วนศพที่ยังไม่สามารถเทียบข้อมูลกับญาติได้เพราะญาติของแรงงานเหล่านี้เป็นชาวเมียนมายังอยู่ที่ต่างประเทศ และส่วนของศพที่ยังไม่สามารถทราบดีเอ็นเอได้ว่าเป็นใครอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยในส่วนของเก็บวัตถุพยาน ที่ดำเนินการในระหว่างการค้นหาและกู้ภัย ทางพิสูจน์หลักฐานทำงานร่วมกับโยธาธิการและผังเมือง ได้เก็บหลักฐานทั้ง เหล็ก คอนกรีต โดยเหล็กเก็บไปแล้ว 366 เส้น คอนกรีต 237 แท่ง ทั้งหมดมีชิ้นส่วนเก็บเป็นหลักฐานรวม 603 รายการ เป็นการเก็บตัวอย่างจากสร้างอาคารที่พังถล่ม


ส่วนอาคารที่ไม่พังถล่มก็จะเป็นการเก็บหลักฐาน แท่งคอนกรีตจากโถงทางเดิน โถงลิฟท์ ปล่องลิฟต์ บันไดหนีไฟ ที่มีการสุ่มตรวจตัวอย่างแท่งปูน 41 ก้อน จุดปล่องลิฟต์ 40 ก้อน

โดยจากการประชุมเมื่อเช้าที่ผ่านมาหลังจากปิดศูนย์วันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะมีการอายัดสถานที่ทั้งในส่วนของอาคารที่พังถล่มและกองซากปูนที่กองไว้บริเวณบริเวณทางเข้าศาลเยาวชนฯ จะเป็นสองจุดที่ตำรวจจะอายัดพื้นที่ต่อและจะมีการเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนเพิ่มเติมโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งทางพื้นที่ก่อสร้างอาคาร สตง.จะอายัดถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ส่วนกองปูนที่กองไว้จะอายัดจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม

ด้านนางสาวฐิตาพรรณ ฉันทโชติ วิศวกรชำนาญการ กรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบายถึงการเก็บตัวอย่างต่อไปว่า ส่วนของอาคารที่จะอายัดไว้นั้น ทางกรมพิจารณาว่าจะขอเก็บตัวอย่างเหล็กเส้นและคอนกรีตเพิ่มเติม ชิ้นส่วนของเสาและปล่องลิฟท์ที่ยังเหลืออยู่ ส่วนกองปูนที่เก็บตรงข้างศาลเยาวชนฯ จะมีเหล็กเส้นที่ฐานการใช้งานแล้ว

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เปิดเผยว่า ส่วนของการถอนกำลัง เปิดเผยว่าส่วนของการถอนกำลังทั้งคนและเครื่องจักรจะถอนออกทั้งหมดในวันนี้ซึ่งก็จะต้องทยอยขน

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือประชาชนที่มาทำเรื่องขอรับการช่วยเหลือทั้ง 50 เขต จากการได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวโดยส่วนใหญ่ 40,000 กว่าเคสจะเป็นการขอค่าวัสดุซ่อมแซมบ้านที่พักอาศัย รวมมูลค่า 176 ล้านบาท

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็น ค่าน้ำมัน หากถ้าดูจากยอดการใช้น้ำมันในพื้นที่ประสบภัยวันนึงต่ำสุด 3000 ถึงสูงสุด 6000 ลิตรต่อวัน การปฎิบัติงานใช้ค่าน้ำมันวันละ 200,000 บาท ในระยะเวลากว่า 50 วัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงยังไม่นับรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือ มีการซ่อมระหว่างการทำงานด้วยซึ่งได้ทำเรื่องไปถึงกรมบัญชีกลาง ด้วยอีกทาง โดยจะมีการขอเพิ่มวัตถุประสงค์การของบเพิ่มเติมไว้ด้วย แม้ว่าจะมีทางบริษัทอิตาเลียนไทยแจ้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งด้วยก็ตาม.- 417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]