ปล่อยคลิปเสียง “เท้ง-กฤษฎิ์” ระบายสุดอึดอัดใจถูกแบ่งพวก

กทม.13 พ.ค. – ปล่อยคลิปเสียง “เท้ง-กฤษฎิ์” ระบายปมสุดอึดอัดใจถูกแบ่งพวก แถมยังชวนคนอื่นลงสมัคร สส.แทนตัวเอง ย้ำขอ “ธรรมนัส” ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านมาตลอด ด้าน “ณัฐพงษ์” ชี้ลาออกเลือกตั้งใหม่โยน ปชช.ตัดสิน รับไม่ได้รู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในพรรค ถ้ารู้คงมาคุยก่อนที่จะระเบิด


เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2568 ผู้สื่อรายงานว่าจากกรณีที่น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน แถลงประกาศแยกทางกับพรรคประชาชนโดยให้เหตุผลถึงทัศนคติที่เข้ากับพรรคไม่ได้ รวมถึงการที่ได้อภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระบรมราโชบายสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง

ล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปเสียงที่เป็นการพูดคุยกันระหว่าง น.ส.กฤษฎิ์ กับ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน โดยเป็นการระบายความรู้สึกของ น.ส.กฤษฎิ์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมเปิดเผยว่าพรรคมีการชวนคนอื่นลงสมัคร สส.แทนตัวเอง


โดย น.ส.กฤษฎิ์ ระบุถึงประเด็นการเอาคนมาลงสมัครแทนว่า เราก็ฟังหูไว้หู พอจะออกก็มีเรื่องเข้ามาตลอด แต่เรื่องก็นานมาแล้วแต่เหมือนเป็นการดิสเครดิตมาเรื่อยๆ เราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง ทำไมเราตั้งใจทำงานแต่โดนตลอด จนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ต้องเผาสติกเกอร์ทิ้ง 5 หมื่นแผ่น ที่ตั้งใจหาเสียงเลือกตั้งเต็มที่ สุดท้ายก็ไม่เลือกกู ตั้งใจทำเพื่อพรรคทุกอย่างทุ่มทุนทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้

น.ส.กฤษฎิ์ ยังเปิดเผยถึงเหตุผลที่อยากไปร่วมงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมว่า พี่ไปขอร้องให้เขา ช่วย 2 ครั้ง สมัยที่เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งแรกให้ช่วยทำอ่างเก็บน้ำ ครั้งที่ 2 ให้เขามาดูปัญหาให้ชาวประมงให้พี่ พี่บอกปุ๊บเขาทำให้ปั๊บ พี่ทำงานต้องขอความช่วยเหลือกับรัฐมนตรีหลายคนในการทำงานในพื้นที่ พี่ก็ดูว่า คนไหนช่วยเรา

ซึ่งนายณัฐพงษ์ สอบถามว่า จุดแตกหักคืออะไร หรือมันสะสมมาเรื่อยๆ โดย น.ส.กฤษฎิ์ ตอบว่า มันสะสมมาตั้งแต่แรกก่อนหน้ายุบพรรคอีก เรื่องของจังหวัดเป็นตั้งแต่ยุคแรกๆซึ่งพี่พูดมาตลอดแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้รับยุติธรรม พี่ก็หมั่นไส้ บางคนเป็นหนอนเป็นงูเห่า รับเงินจากต่างพรรคมาแล้วเอาเรื่องของพรรคไปขาย แต่ยังหน้าลอยตาทำงานอย่างมีความสุข แต่พี่ทำงานให้พรรคทุกอย่าง แต่โดนบูลลี่ทุกอย่างชัดเจนว่าความยุติธรรมไม่มี


”ตอนนี้พี่จะทำให้จบสมัย แต่สมัยหน้าก็เป็นเรื่องของพรรคอื่นแล้วว่าเขาจะรับพี่ไหม แต่บอกเลยว่าคนอย่างพี่ไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงินใจล้วนๆ แต่พี่หมดใจให้กับพรรคเราแล้ว อย่างสุรเชษฐ์ล่อพี่มาตลอดทำเหมือนเด็ก ไปนินทาลับหลังว่า วางตัวไม่ดีดูซิมันคบกับกรรมาธิการคนอื่น เด็กก็ไม่กล้าคุยกับเราเรารู้ได้เพราะโตแล้ว จนสุดท้ายก็ได้ยินจากปากของคนในกมธ.คมนาคมว่า เป็นแบบนั้นจริงเขาว่าบอกพี่วางตัวไม่ดี ถามหน่อยกูวางตัวไม่ดียังไง เรานำเสนอนักวิชาการระดับประเทศนั่งกมธ.แลนด์บริดจ์ สุรเชษฐ์บอกว่าใครก็ไม่รู้ ใช่พวกเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ อ่าวแล้วกูไม่ใช่พวกมึงหรอกูเป็นคนเสนอ เพราะรู้ว่าให้นักวิชาการนั่งจะได้ประโยชน์กว่า สุดท้ายสุรเชษฐ์ก็ไม่เอา เอาใครมานั่งก็ไม่รู้ จนสุดท้ายมึงก็ยืนยันว่า กูไม่ใช่พวกด้วยการกระทำของมึง“

นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า ตอนนี้เข้าใจปัญหาที่พี่เจอแล้ว แต่พยายามเข้าใจโจทย์ เพื่อหาทางออกทั้ง 2ฝ่าย ถ้าพี่อยากเป็นสส.ให้จบสมัยมี2ทางคือ อยู่กับพรรคโดยที่สร้างบรรยากาศที่ไม่อึดอัด หรือถ้าอยากย้ายพรรคก็คือพรรคต้องขับออก หรือไม่ย้าย แต่ย้ายที่นั่งไปอยู่กับเขาทำงานด้วยกันต่อ

ซึ่ง น.ส.กฤษฎิ์ ตอบโต้ว่า ถ้าทำแบบนั้นพี่ก็เป็นงูเห่าดิ พี่จะทำอย่างนั้นทำไม ในหนังสือชัดเจนว่าต้องการให้ขับออก ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด และไม่ทำให้พรรคเสียหาย แต่ถ้าไม่ขับออกต้องมีเรื่องราวตามมา ซึ่งพี่ไม่อยากทำอย่างนั้นอยู่แล้ว

นายณัฐพงษ์ จึงระบุว่า ถ้าขับออกก็มีเรื่องที่ต้องคุยกันต่อเช่นการแถลง ผมออกแบบว่าอาจมีตัวแทนพรรคเป็นคนไปแถลงด้วยแล้วบอกว่า ทำงานร่วมกันด้วยไม่ได้ แต่ตามวินัยพรรคการที่จะขับออกต้องทำผิดวินัย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ทำผิดวินัยคือเรื่องอะไร ผมยืนยันว่าสิ่งที่พี่หารือในสภาที่เป็นประเด็นก็ไม่เคยเอาเข้าวินัยพรรค ถ้าพี่ไม่มีประเด็นเรื่องการหารือในสภาจะง่ายต่อพรรคเยอะ ตอนนี้สื่อจับจ้อง สังคมออนไลน์จับจ้อง หรือกระทั้งฝ่ายตรงข้าม อยากจะเล่นว่าอ๋อไอ้พรรคนี้ไงสส.หารือในสภาเรื่องอยากเข้าเฝ้าเลยถูกขับออก ไม่ตรงกับอุดมการณ์พรรค ไอห่าพรรคล้มเจ้า นี้คือสิ่งที่พรรคจะโดนพี่เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเรื่องขับออกก็ต้องมานั่งคุยกันให้ตกผลึกว่าเป็นข้อหาอะไร ผมก็ยังคิดไม่ออกเรื่องนี้มันยาก ทางออกที่ดีที่สุดคือเราทำงานร่วมกันถ้ามีอะไรที่พี่ไม่สบายใจ เดี๋ยวผมทำตัวเป็นนักเลงช่วยเคลียร์ให้

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวยืนยันว่า พี่ไม่ได้ต้องการแบบนั้น พี่ต้องการออกไปเป็นตัวของตัวเอง พี่ไม่ได้เป็นเด็กที่ต้องคอยให้ใครอุ้มหรือโอบ ซึ่งนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีอีกทางหนึ่งไม่รู้จะตอบโจทย์พี่ไหมแต่จะทำให้สังคมเชื่อพี่พูดแล้วโครตหล่อเลย สำหรับการทำแบบนี้ พรรคอาจจะเสียหายนิดหน่อย คือพี่แถลงไปเลยว่าไม่ถูกจริตกับการทำงานของพรรค แล้วพี่ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดย น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า พี่ก็หมดสภาพ สส.ซิ นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า ผมถึงบอกไงว่าตอบโจทย์นั้นหนึ่งของพี่รักษาชื่อเสียง หากพี่ไม่ได้คิดถึงสมัยหน้าเพราะเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเทอม

“พี่เลือกแถลงยุติบทบาทกับพรรคสำหรับผมไม่มีทางที่จะจบสวย เพราะสื่อจ้องอยู่แล้ว ต้องแถลงร่วมกันแล้วให้พรรคเป็นผู้นำในการแถลงซึ่งต้องมาคุยกันในเนื้อหาว่าขับออกเพราะอะไร พี่พิจารณาทางออกผมใหม่ดีไหม พี่ลาออกเลือกตั้งใหม่พี่ลงในนามธรรมนัส พรรคก็ส่งคนใหม่ในนามของพรรค ให้ประชาชนตัดสินไม่มีใครด่าพี่ด้วย”

โดย น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวยืนยันว่า ยังไงก็ต้องแถลงให้ประชาชนพี่เข้าใจ พี่จะขึ้นข้อความในเพจพรรคก็กลัวจะเสียชื่อเสียงพี่ก็ไม่ทำเลยรอแถลงหลังเลือกตั้งทีเดียว แต่ตอนนี้มาบอกไม่ให้แถลง ไม่มีความยุติธรรมสำหรับพี่เลยใช่ไหม ซึ่งนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผมไม่ได้รู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในพรรค ถ้ารู้คงมาคุยกับพี่ก่อนที่มันจะระเบิด .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]