ศูนย์พิษวิทยาเผยผลกระทบ “เคนมผง” กดการหายใจ เสี่ยงตาย

สธ. 11 ม.ค. – ศูนย์พิษวิทยา รามาฯ เผยผลกระทบ เคนมผง ไม่มีส่วนผสมตายตัว ขึ้นอยู่กับการผสม แต่ทั้ง 4 สาร เฮโรอีน ไอซ์ เคตามีน และยานอนหลับ ล้วนเสริมฤทธิ์กดการหายใจ และทำให้หัวใจขาดเลือด เตือนนักเสพได้รับผลกระทบไม่สุขแท้ เสี่ยงตายสถานเดียว


ศ.นพ.วินัย วนานุกูล หัวหน้าศูนย์พิษวิทยา รพ.รามาธิบดี กล่าวถึงผลทางพิษวิทยาของเคนมผง ที่มีส่วนผสมของสารเสพติดหลายชนิด และมีผู้เสียชีวิต 8 คน ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างรอการตรวจผลจากห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสาตร์ คาดว่าทราบผลพรุ่งนี้ ซึ่งหากวิเคราะห์ตามอาการเบื้องต้นของสารเสพติดนี้ มีความเกี่ยวข้องมากถึง 4 ชนิดได้แก่ เฮโรอีน เคตามีน ไอซ์ และยานอนหลับ และในการผสมเป็นเคนมผง ก็ไม่มีส่วนผสมลงตัว ทำให้ในร่างกายผู้เสียชีวิต มีระดับสารเสพติดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าใส่สารใดมากเป็นพิเศษ แต่หากสันนิษฐานเชื้อว่า สาเหตุที่อาจทำให้เสียชีวิตเพราะร่างกายได้รับเฮโรฮีน ที่มีฤทธิ์กดการหายใจมากเกินไป

ศ.นพ.วินัย กล่าวว่า ฤทธิ์ของเฮโรฮีน ทำให้กดการหายใจ ส่วนยาไอซ์ และเคตามีน ทำให้ภาวะเส้นเลือดหัวใจหดตัว เกร็ง เกิดภาวะขาดกับหัวใจขาดเลือด ส่วนยานอนหลับทำให้มีภาวะหลับนานมากยิ่งขึ้น เมื่อนำทุกสารมาผสมกันจะมีการเสริมฤทธิ์กัน การได้รับสารเสพติดเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตทันที แต่ละคนจะมีอาการไม่เหมือนกันและแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณสารที่ได้รับ ภาวะความแข็งแรงของร่างกายในแต่คนก็ไม่เหมือนกัน แต่สารเหล่านี้ออกฤทธิ์กดการหายใจ หากได้รับปริมาณมาก และนานพอสมควรช่วยเหลือไม่ทันก็เสียชีวิต อยากเตือนนักเสพให้ระวัง เพราะอาจไม่ได้รับความสุขและสนุกอย่างที่คิดแต่อาจเสียชีวิตแทนได้ ส่วนผู้ที่รอดชีวิตจากสารเสพติดนี้ เนื้อสมองอาจได้รับผลกระทบจากการหยุดหายใจ เพราะเนื้อสมองต้องขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน .–สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อลังการเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ดึงดูดผู้คนทั่วโลก

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่เชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่จะไปร่วมเฉลิมฉลองกันที่นั่นไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ซึ่งมีการจัดกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ในหลายจุด โดยเฉพาะที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความสวยงามของดอกไม้และแสงไฟ เรียกว่าเป็นจุดเคาท์ดาวน์ที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน

พ่อช็อก ลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์

พ่อช็อก น้ำตาคลอรู้ข่าวลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินเชจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ เผยเป็นลาง ลูกยื่นเงินหมื่นให้พ่อจ่ายเงินฌาปนกิจศพให้ตัวเอง

Jeju Air CEO apologises for plane crash at airport in South Korea

ซีอีโอเชจูแอร์ขอขมาผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชน

โซล 29 ธ.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju AIr) ขอขมาต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชนรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 124 คน จากจำนวนคนบนเครื่องบินทั้งหมด 181 คน นายคิม อีแบ ซีอีโอเชจูแอร์ แถลงต่อสื่อสั้น ๆ ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอขมาต่อผู้โดยสารที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงครอบครัว บริษัทจะแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็วและให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้โดยสาร นอกจากนี้จะพยายามอย่างเต็มที่ในการหาสาเหตุร่วมกับรัฐบาล นายคิม กล่าวว่า บริษัทให้บริการเครื่องบินลำนี้โดยได้มีการซ่อมบำรุงตามปกติ และไม่พบสัญญาณใด ๆ ว่าเครื่องบินมีความผิดปกติ เชจูแอร์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำของเกาหลีใต้ที่ตั้งขึ้นในปี 2548 ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยังญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไทย และมีเที่ยวบินในประเทศจำนวนมาก ด้านโบอิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐ แถลงว่า กำลังประสานกับเชจูแอร์ กรณีเครื่องบินโบอิง 737-800 แบบ 2 เครื่องยนต์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) ชนที่ท่าอากาศยานทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือสายการบิน ขณะที่กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ ระบุว่า เครื่องบินลำนี้ผลิตในปี 2552 […]

ข่าวแห่งปี 2567 : สุดอาลัย…ดาวลับฟ้า ปี 2567

ตลอดปี 2567 นับเป็นปีที่สูญเสียบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งในแวดวงบันเทิง ศิลปินแห่งชาติ และวงการสื่อสารมวลชน ที่มีคุณูปการต่อประเทศชาติ