โอซากา 24 เม.ย. – ศาลาไทยหรือ Thai Pavillion เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Expo 2025 นครโอซากา ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน นำเสนอแนวคิด “ภูมิพิมาน – ดินแดนแห่งภูมิคุ้มกัน” ถ่ายทอดภูมิปัญญา นวัตกรรม และศักยภาพด้านสุขภาพของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก
พิธีเปิดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ โซน Connecting Lives ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาไทยบนพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน พร้อมด้วยนายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว , นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในฐานะ Commissioner – General of Thailand for Expo 2025 Osaka, Kansai
พิธีเริ่มต้นด้วยการสรงน้ำพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลและการร่วมปักเฉลว (เครื่องจักสานทำด้วยตอกหรือหวายแพทย์แผนไทยใช้เป็นเครื่องหมาย เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์และป้องกันยาเสื่อมคุณภาพ) ลงหม้อยา สัญลักษณ์ของการปักหมุดประเทศไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพโลก พร้อมการแสดงชุดพิเศษ “อาทิตย์อุทัย กึกก้องทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ถ่ายทอดวัฒนธรรมสงกรานต์ของไทยที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก


สถาปัตยกรรมของศาลาไทยออกแบบโดยผสานศิลปะไทยโบราณเข้ากับเทคนิคก่อสร้างสมัยใหม่ มีหลังคาทรงจอมแหประกอบกับผนังกระจกเงาขนาดใหญ่ที่สร้างภาพสะท้อนของสถาปัตยกรรมไทยอย่างสง่างาม แตกต่างจากศาลาไทยในงาน Expo ที่ผ่านมา ภายในศาลาไทยมีการจัดแสดงนิทรรศการแบบครอบคลุม ทั้งการนำเสนอผ่าน 5 ประสาทสัมผัส ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์แบบไทยอย่างเต็มรูปแบบ เช่น การนวดแผนไทย การชิมอาหารไทย การดมกลิ่นสมุนไพร และการชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย
โครงสร้างนิทรรศการแบ่งออกเป็นหลายโซนสำคัญ เริ่มจากโซน 1 หมุดหมายสุขภาพโลก ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพและสแกน QR Code เพื่อเล่น AR ทำการปักหมุดเฉลว (เสมือนได้รู้จักประตูสู่ดินแดนแห่งความกินดีอยู่ดีแบบไทย
โซน 10 มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย นำเสนอวิถีชีวิตแบบไทย ภูมิวิถี วัฒนธรรม และยิ้มสยาม ถ่ายทอดผ่านแอนิเมชันและสื่อ Interactive พร้อม Immersive Theater โรงภาพยนตร์ขนาดยักษ์ที่ถ่ายทอดความงดงามของธรรมชาติและสุขภาพแบบองค์รวมของไทย
โซน 100 ศักยภาพสาธารณสุขไทย จัดแสดงด้วยเทคนิค Projection Mapping และวัตถุจริงกว่า 100 ชิ้น นำเสนอนวัตกรรมด้านการแพทย์ เช่น AI คัดกรองเบาหวานที่ตา ฟองน้ำห้ามเลือดจากแป้งข้าวเจ้า กระดูกทดแทนจากเทคโนโลยี 3 มิติ และหุ่นยนต์ดินสอช่วยดูแลผู้สูงวัย
โซน 1,000 สถานบริการทางการแพทย์ แสดงศักยภาพของโรงพยาบาลไทยที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งสปา เวลเนส และบริการส่งเสริมสุขภาพ
โซน 10,000 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ผู้เข้าชมออกแบบเมนูอาหารไทยตามสไตล์ของตนเองผ่าน Interactive Table พร้อมรู้จักกับวัตถุดิบไทยหลากหลาย และเรียนรู้เมนูสุขภาพของแต่ละภาค
โซน 100,000 ผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกัน จัดแสดงสินค้านวัตกรรมจากสมุนไพรไทย อาหารเพื่อสุขภาพ และกิจกรรม Open Kitchen สาธิตการทำอาหารไทยยอดนิยม เช่น ต้มยำกุ้ง ผัดไทย แกงมัสมั่น รวมถึงมีการสาธิตการนวดแผนไทยจากหมอนวดผู้เชี่ยวชาญ
โซนพิเศษ 1,000,000 รอยยิ้มแห่งความประทับใจ เป็นพื้นที่รวบรวมความรู้สึกของผู้เข้าชมจากทั่วโลก ถ่ายทอดความประทับใจที่มีต่อศาลาไทย
นอกจากนี้ บริเวณเวทีกิจกรรมภายนอกยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยหมุนเวียนตลอดงาน เช่น โขน ดนตรีไทย มวยไทย และกิจกรรม Business Matching เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนในด้านสุขภาพและสาธารณสุข
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวในพิธีเปิดว่า ศาลาไทยในงาน Expo ครั้งนี้สะท้อนศักยภาพของประเทศไทยใน 7 ด้าน ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก สถานพยาบาลมาตรฐานสากล บุคลากรแพทย์เชี่ยวชาญ ค่ารักษาพยาบาลเหมาะสม การบริการที่มีเซอร์วิสมายด์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน และความโดดเด่นด้านแพทย์แผนไทยและทางเลือก เพื่อมุ่งสู่การเป็น Medical & Wellness Hub ศูนย์กลางสุขภาพของโลก
ศาลาไทยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2568โดยได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน Expo2025 เป็นอย่างมาก เฉลี่ยวันละ 8,200 คน โดยจะเปิดไปจนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2568 มุ่งหวังสร้างความประทับใจและถ่ายทอดแนวคิดภูมิคุ้มกันชีวิตจากภูมิปัญญาไทยสู่เวทีโลก. – 512 – สำนักข่าวไทย