นายกฯ ย้ำเดินทางปีใหม่ปฏิบัติตามมาตรการ สธ. ป้องโควิด-19

ทำเนียบฯ 29 ธ.ค. -นายกรัฐมนตรี ขอทุกคนเดินทางช่วงปีใหม่โดยสวัสดิภาพ ปฎิบัติตามมาตรการ สธ.อย่างเคร่งครัด ป้องกันแพร่โควิด-19 ส่วนจะล็อคดาวน์ทั้งประเทศหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทุกคนและสถานการณ์ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน หยุดพูดข้อมูลที่ไม่จริง ระบุลงพื้นที่จ.ระยอง ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมระมัดระวังตัวเองอย่างดีที่สุด


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดสุดท้ายของปีนี้ ได้วางแนวทางการทำงานในปี 2564 โดยเน้นการทำงานเพื่อลดปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา รวมถึงปัญหาในปัจจุบันและอนาคตที่ต้องเตรียมการไว้ ได้ขอความร่วมมือจาก ครม. ที่ต้องร่วมมือกันทำงาน ซึ่งต้องยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา สิ่งที่ทำได้คือต้องเตรียมพร้อมตนเองเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดเวลา ฝาก ครม.ทุกคนทำงานเชิงรุกมากขึ้น บูรณาการการทำงานระหว่างกระทรวงมากขึ้น เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เพียงลำพังและหลักการสำคัญ คือต้องยึดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ และทุกภาคส่วนต้องช่วยกันฟันฝ่าต่อสู้ไปด้วยกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในช่วงนี้ ว่า ขอให้ทุกคนเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ มีสติ ไม่ประมาทในการใช้ชีวิตและใช้ชีวิตแบบ new normal รวมถึงการเดินทางกลับมาทำงานหลังช่วงปีใหม่ด้วยความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอให้ปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างจริงจัง ทั้งการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง รวมถึงการล้างมือ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทุกคนต้องสร้างวินัยให้กับตนเอง และระหว่างการเดินทางให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถ้าเป็นไปได้หากเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ก็ขอให้กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เพื่อสังเกตอาการและหากมีอาการก็ให้รีบไปพบแพทย์


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัด ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรเดินทางไป แต่หากจำเป็นก็ต้องปฎิบัติตัวตามมาตรการของแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด ทำการตรวจสอบการคัดกรอง ซึ่งเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ทั้งนี้รัฐบาลไม่ได้ห้ามเดินทางในช่วงเทศกาล แต่มีมาตรการในแต่ละพื้นที่อยู่ และผู้ที่อยู่ในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดก็ต้องระมัดระวังตนเองด้วย ส่วนผู้ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงต่าง ๆ ก็ต้องระมัดระวังตนเอง เพราะรัฐบาลไม่สามารถไปควบคุมทุกคนได้ ซึ่งทุกคนต้องมีวิจารณญาณของตัวเอง และขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง ที่บางคนออกมาพูดข้อมูลที่ไม่เป็นจริง หรือหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมจะทำเช่นนี้ เพราะเป็นเวลาที่จะช่วยกันให้มากที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดระยองในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะระมัดระวังให้มากที่สุด จะใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการติดต่อพูดคุยในระยะใกล้ การเว้นระยะห่าง ซึ่งตนไม่ต้องการไปติดเชื้อหรือมาแพร่เชื้อให้ใคร เพราะตนต้องทำงาน ไม่อยากเจ็บป่วย ซึ่งจะทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ตรวจ Rapid Test เป็นระยะ ๆ รวมถึงการตรวจ Swab ด้วย การลงพื้นที่เพื่อต้องการไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะวันนี้ทุกจังหวัดเหน็ดเหนื่อย ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดระยอง และขอว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ก็อย่าการ์ดตกกันอีก ขอบคุณประชาชนที่เป็นห่วงตน และที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่

ส่วนหลังเทศกาลปีใหม่ จะประกาสล็อคดาวน์ทั้งประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการปฎิบัติตัวของทุกคน และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่อไป ถ้าทุกคนปฎิบัติตามมาตรการของ ศบค. ก็เชื่อว่าจะไปไม่ถึงจุดนั้น และอยากให้ทุกคนมีศรัทธาร่วมกัน ที่จะทำให้ประเทศไทย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน ซึ่งเวลานี้ไม่ใช่เวลามาทำงานการเมือง แต่เป็นเวลาที่ต้องดูแลประชาชนไปด้วยกัน


พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณความร่วมมือการทำงานของทุกภาคส่วน และยืนยันจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นในทุกมิติ ทั้งเรื่องโควิด-19 การดูแลเกษตรกร รวมถึงกลุ่มเปราะบาง และแรงงานต่างด้าว ที่รัฐบาลมีมาตรการหลายอย่างที่พิจารณาใน ครม. ที่จะดูแลในช่วงนี้ ว่าจะทำอย่างไรในการควบคุมแรงงานต่างด้าวและต้องตรวจสอบการเข้ามาว่าถูกกฎหมายหรือไม่ ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการในการแจ้งจำนวนตัวเลขของแรงงานต่างด้าวให้ชัดเจน และต้องไม่ปกปิดข้อมูล เพราะรัฐไม่สามารถไปตรวจสอบได้ทุกโรงงาน หากแรงงานที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง รัฐบาลก็ได้ผ่อนผันให้ขึ้นบัญชีให้เรียบร้อย เพื่อตรวจสอบได้มากขึ้น ดังนั้นถือเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของโรงงานที่ต้องมีต่อสังคม และหากตรวจสอบว่ามีการปกปิดข้อมูลและมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ผู้ประกอบการก็จะต้องถูกขึ้นแบล็คลิสต์

นายกรัฐมนตรี อวยพรขอให้ทุกคนมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้มีความระมัดระวังอย่างที่สุด ที่จะทำให้สถานการณ์โควิด-19 หมดสิ้นไปโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย