ทูตเมียนมาเยี่ยมแรงงานพื้นที่สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 25 ธ.ค.-จ.สมุทรสาคร จุดเริ่มต้นของการพบเชื้อโควิด-19 เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ได้ลงพื้นที่มอบของและเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแรงงานเมียนมา ขณะที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ปรับแผนตรวจหาเชื้อ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว

นายเมียว เมียนตัน เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ร่วมกับนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร และจัดหางานจังหวัด ลงพื้นที่ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร เพื่อนำสิ่งของ อาทิ น้ำมันพืช เกลือ มอบให้กับแรงงานเมียนมา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมบอกว่า ก่อนลงพื้นที่ได้ไปพบกับนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ซึ่งได้เน้นย้ำว่า ทางการไทยจะดูแลชาวเมียนมาเป็นอย่างดี ส่วนสถานทูตก็พร้อมให้การช่วยเหลือกับทางแรงงานเมียนมาอย่างเต็มที่


ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ระบุเพื่อให้การตรวจหาเชื้อเป็นไปอย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทั้งกลุ่มคนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และแรงงานต่างด้าว โดยวันนี้ได้เริ่มปรับแผนการตรวจหาเชื้อ โดยเปลี่ยนจากเก็บสารคัดหลั่งจากโพรงจมูก หรือที่เรียกว่าแบบ Swab มาเป็นการตรวจด้วยวิธี Rapid Test หรือการตรวจหาเชื้อจากการเจาะเลือดแทน ซึ่งจะทำให้ทราบผลภายใน 30 นาที หากใครไม่พบเชื้อก็ไม่ต้องตรวจซ้ำอีก นอกจากนี้ยังจัดระเบียบการตรวจเชื้อใหม่ โดยให้แยกรถตรวจสำหรับคนไทยกลุ่มเสี่ยง ออกจากแรงงานต่างด้าว เพื่อคน 2 กลุ่มนี้ ได้ตรวจไปพร้อมๆ กัน

ส่วนตัวเลขติดเชื้อในพื้นที่สมุทรสาคร ข้อมูลเมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (24 ธ.ค.) พบผู้ป่วยแล้ว 1,300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานเมียนมา และยังมีเหลืออีกว่า 6,000 คนที่รอผลตรวจ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ยืนยันว่ามองในภาพรวมถือว่าดี เพราะแม้ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่เมื่อเทียบกับในแต่ละวัน เมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อน้อยลงกว่าทุกวัน ทำให้แม้บอกไม่ได้ว่า สามารถคุมการแพร่ระบาดได้อย่างชัดเจน แต่ข้อมูลตรงนี้เป็นตัวบ่งบอกว่า เดินมาถูกทาง โดยเป็นผลมากจากการทำงานที่เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย


ส่วนเรื่องการตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ติดเชื้อ ที่มีชาวบ้านบางส่วนคัดค้าน ไม่อยากให้มาตั้งในพื้นที่ อย่างชาวบ้านชุมชนรอบมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร ที่เมื่อวานนี้นัดรวมตัวกันกันกว่า 100 คนหน้ามหาวิทยาลัย ด้วยการลงไปนั่ง และยืนขวางรถของทหารที่จะเข้าไปปรับพื้นที่ ไม่ให้เข้าไปในรั้วของมหาวิทยาลัย ร้อนถึงนายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะตัวแทนผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ได้มาพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้าน เพื่อรับฟังข้อกังวล และแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งเบื้องต้นชาวบ้านบอกว่าที่ไม่อยากให้มาตั้งตรงจุดนี้ เพราะบริเวณโดยรอบมีชาวบ้นอยู่ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ไม่รวมแรงงานต่างด้าว แถมยังมีสถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หากนำคนติดเชื้อมาไว้ในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นศูนย์กลางชุมชน เห็นว่าไม่เหมาะ เพราะยังไม่มีใครบอกได้ว่า เชื้อจะไม่กระจายไปสู่ชุมชน

ไม่ต่างจากพื้นที่บริเวณสวนน้ำพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร ที่ก่อนหน้าได้เตรียมทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ชาวบ้านก็กลัวจะมีการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่ ยิ่งตอนนี้ กุ้ง ปู ขายไม่ออก เพราะคนกลัวการซื้ออาหารทะเลของสมุทรสาคร เกรงว่าหากมาสร้างโรงพยาบาลสนามอีก ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์