ลอนดอน 21 ธ.ค.- กรุงลอนดอนและฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษอาจต้องอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดไปอีกระยะหนึ่งเพื่อควบคุมเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ได้รวดเร็ว ขณะที่ยอดผู้ป่วยใหม่ในวันเดียวทำสถิติสูงสุด
นายแมตต์ แฮนคอค รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษเผยกับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันเริ่มบังคับใช้มาตรการว่า มาตรการเข้มงวดที่ให้ประชากรบนเกาะอังกฤษราวหนึ่งในสามต้องอยู่บ้านหากไม่มีเหตุผลจำเป็น เช่น ไปทำงาน อาจต้องใช้ไปจนกว่าจะมีวัคซีนใช้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้การควบคุมทำได้ยากมากจนกว่าประชาชนจะได้รับวัคซีน
อังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคเป็นประเทศแรกของโลกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ขณะที่เมื่อวานนี้มีผู้ป่วยใหม่ 35,928 คน มากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 326 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการรวมกว่า 67,000 คน ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ว่ากันว่าแพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมร้อยละ 70 ทำให้เกิดความวิตกในวงกว้าง หลายประเทศในยุโรปดำเนินมาตรการห้ามคนเดินทางจากอังกฤษทั้งทางเครื่องบินและรถไฟ
ด้านนายเคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านแถลงว่า สนับสนุนให้ใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น แต่ตำหนินายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันว่ารอนานถึง 11 ชั่วโมงกว่าจะประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า ยกเลิกแผนการผ่อนปรนที่อนุญาตให้คนต่างครอบครัวสังสรรค์ด้วยกันได้สูงสุด 3 ครอบครัวในช่วงคริสต์มาส 5 วัน และประกาศใช้มาตรการจำกัดระดับ 4 ที่คล้ายกับการล็อกดาวน์ประเทศเมื่อเดือนมีนาคมกับกรุงลอนดอนและฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย