อุบลราชธานี 4 ธ.ค.- ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ห่วงประชาชนวิตกโควิด-19 หลังมีคนกลับจากเหนือ 3 ราย เที่ยวเชียงใหม่-เชียงราย แม้บางคนมีไข้ แต่ผลตรวจทั้งหมดเป็นลบ ย้ำจังหวัดยังคงตั้งการ์ดเข้มทุกทาง ด้าน ผบ.มทบ.ที่ 22 เอาผิดมือโพสต์กล่าวหาเจ้าหน้าที่รับส่วยขนแรงงานเถื่อน
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด เปิดเผยถึงมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ของจังหวัดว่า มีบุคคลในพื้นที่เดินทางกลับจากภาคเหนือ 3 ราย รายแรกกลับมาจากจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่เดียวกับผู้ติดเชื้อ แม้ไม่ได้ใกล้ชิดและมีความเสี่ยงต่ำ แต่ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ผลตรวจออกมาเป็นลบ รายที่ 2 กลับจากเชียงใหม่และไปห้างที่เดียวกัน มีไข้ ไอ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลอำเภอวารินชำราบ ผลตรวจเป็นลบ ส่วนรายที่ 3 กลับจาก จ.เชียงราย แต่ไม่ได้ข้ามฝั่งไปเมียนมา เมื่อกลับมาที่อุบลราชธานี มีไข้ แต่ไม่มีอาการของระบบทางเดินหายใจ จึงเข้ารับการตรวจพบเป็นลบเช่นกัน ดังนั้น ตามที่มีข่าวลือว่า มีผู้ติดโควิด-19 เข้ารักษาที่โรงพยาบาลอำเภอวารินชำราบถึง 10 ราย จึงไม่ใช่เรื่องจริง อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดไม่ได้ประมาทมีมาตรการเฝ้าระวังเข้มข้นอยู่แล้ว เนื่องจากอุบลราชธานีมีเส้นทางเดินรถโดยสาร มีเที่ยวบินภายในประเทศเชียงใหม่และเชียงราย จึงกำชับการตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกขั้นตอน
นายสฤษดิ์ กล่าวถึงพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว-กัมพูชาว่า ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการเล็ดลอดเข้าประเทศ และที่มีการโพสต์กล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงรับส่วยลักลอบนำแรงงานเถื่อนในประเทศ ทำให้โควิดระบาดนั้น จากการประสานงานกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงแต่ละหน่วยที่ดูแลพื้นที่ชายแดนได้เร่งสืบหาข้อเท็จจริง ยืนยันว่าไม่มีตามที่กล่าวหา
ด้าน พล.ต.สรชัช สุทธิสนธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 กล่าวว่า มีผู้โพสต์ข้อความโจมตีโดยปราศจากข้อเท็จจริง กล่าวหาข้าราชการระดับสูงหลายฝ่าย มีทั้งผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ นายอำเภอ ตำรวจ และทหาร ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย จึงได้ให้นายทหารรัฐธรรมนูญไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีกับผู้โพสต์รายนี้ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งรู้แล้วว่าเป็นใคร.-สำนักข่าวไทย