ก.มหาดไทย 7 พ.ค.-“มหาดไทย” โชว์ 5 ผลงานเด่น “ยุค มท. หนู” จัดระเบียบสังคม-ปราบผู้มีอิทธิพล แก้ปัญหายาเสพติด สร้างอาชีพ ท่องเที่ยวชุมชนเสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก น้ำดื่มสะอาดฟรี
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ให้ความสำคัญและมอบหมายเป็นนโยบายแก่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย 5 นโยบาย พร้อมมีการติดตามการขับเคลื่อนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แต่ละนโยบายได้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนมากที่สุด ซึ่งในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 2567 – มี.ค. 2568) ทุกด้านมีความก้าวหน้าอย่างโดดเด่น
นโยบายที่ 1 การจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง 76 จังหวัด ตั้งจุดตรวจจุดสกัด 233,271 ครั้ง ตรวจสถานที่ 233,602 ครั้ง หาข่าว 280,632 ครั้ง สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 6,056 ครั้ง การค้ามนุษย์ 3 ครั้ง อาวุธปืน 573 ครั้ง สถานบริการ 48 ครั้ง ผู้มีอิทธิพล และอื่น ๆ รวม 840 ครั้ง รวม 7,520 ครั้ง มีผู้กระทำความผิด 6,765 ราย มีผู้เสียหายจำนวน 9 ราย นอกจากนี้ยังปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยจัดทำบัญชีรายชื่อ แบ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยมีพฤติการณ์ เป็นผู้มีอิทธิพล (สีแดง) 566 คน และบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง (สีเหลือง) 625 คน
นโยบายที่ 2 การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติด 5,107 คน นำผู้เสพยาเสพติด 25,281 คน และผู้ป่วยจิตเวช 3,699 คน เข้ากระบวนการบำบัดรักษา โดยมีของกลางเป็นยาบ้า 53.47 ล้านเม็ด และมีการดำเนินงานของสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด 514 แห่ง ในส่วนของมาตรการป้องกัน ตั้งจุดตรวจจุดสกัดและออกตรวจตราพื้นที่เสี่ยง 14,898 แห่ง จำนวน 47,682 ครั้ง มาตรการฟื้นฟูสภาพทางสังคม มีการให้ความช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษาแล้ว 7,599 คน และกองทุนแม่ของแผ่นดินได้ดำเนินกิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน รวม 1,078 หมู่บ้าน
นโยบายที่ 3 การสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้ประชาชน โครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP) เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการร่วมแสดง และจำหน่ายสินค้า เช่น เช่น งาน OTOP To The World มียอดจำหน่าย 20,493,230 บาท, งาน OTOP City 2024 Happy Market ยอดจำหน่าย 703,017,035 บาท, งาน OTOP To The Town โครงการตลาดอะเมซิ่ง ของกินของใช้ จัดแสดงจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 106 ล้านบาท
พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการสวมใส่ผ้าไทย และโครงการผ้าไทย ใส่ให้สนุก ขับเคลื่อนโครงการสำคัญคือโครงการ “Silk Festival 2024 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” โครงการสร้างการรับรู้ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชน ปี 2568 โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานแบบผ้าลายพระราชทาน ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์ การจัดนิทรรศการผ้าไทย Colors of Buriram โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและหัตถกรรมพื้นถิ่นในรูปแบบนิทรรศการที่ทันสมัย และไฮแฟชั่นสุดอลังการ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นโยบายที่ 4 การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ดำเนินคัดเลือกอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์ดึงดูดการท่องเที่ยวแล้ว 71 จังหวัด 677 อำเภอ จัดโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการในชุมชนท่องเที่ยว สร้างความรู้ความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานโครงการและบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ประเภท C รวม 300 คน เป็นต้น
สุดท้าย นโยบายที่ 5 น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนา ปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปา 878 แห่ง หรืออำเภอละ 1 แห่ง และติดตั้งตู้น้ำดื่มสะอาดให้ประชาชนได้ใช้อย่างเพียงพอ ลดภาระค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2568 จำนวน 20,000 ชุด นอกจากนี้ยังมีโครงการแท่นน้ำประปาดื่มได้ 113 แท่น พื้นที่น้ำประปาดื่มได้ที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัย, โครงการน้ำดื่มสะอาด Mini Station โดยการประปาส่วนภูมิภาค 30 แห่ง และโครงการตู้กดน้ำดื่มสะอาด มีแผนดำเนินงานติดตั้งที่สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคสาขาครอบคลุม 234 สาขา รวมถึงพื้นที่ส่วนราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย.-319.-สำนักข่าวไทย