กรุงเทพฯ 2 พ.ย.- “ศักดิ์สยาม” สั่ง ทอท.-ท่าอากาศยานภูเก็ต เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มั่นใจเฟสแรกเตรียมระบบคัดกรองรับนักท่องเที่ยวได้ 578 คน/วัน ก่อนเพิ่มเป็นวันละกว่า 1,000 คน ในระยะเวลาอันใกล้ กลับมาสร้างรายได้ต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังหารือร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคม รวมถึงผู้บริหารบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยระบุว่า ในวันนี้ได้ซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ และมีกำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้
ประเด็นสำคัญที่ต้องซักซ้อมเรื่องการเตรียมพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง โดยวางกลุ่มเป้าหมายที่จะดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มแรกๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือประเทศที่มีระยะเวลาปลอดการติดเชื้อใหม่ไม่น้อยกว่าประเทศไทย
จากการซักซ้อมกับท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตขณะนี้ ยืนยันว่าการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการจัดเตรียมสถานที่กักตัวเป็นตามระยะเวลาควบคุมโรค 14 วัน และระบบคัดกรองต่างๆ จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้วันละ 578 คน รวมทั้งผู้บริหารท่าอากาศยานภูเก็ตยืนยันว่า สามารถเพิ่มการรองรับนักท่องเที่ยวได้จากจำนวนดังกล่าวได้อีก 1 เท่าตัว หรือเป็นกว่าวันละ 1,000 คน เนื่องจากในช่วงปกติก่อนหน้านี้ท่าอากาศยานภูเก็ตเคยมีขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึงวันละกว่า 14,000 คน
“สิ่งสำคัญในการที่จะช่วยกระตุ้นให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาสร้างรายได้ให้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ คือ ต้องสร้างความมั่นใจในเรื่องการควบคุมโรคและมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งจะสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมีการจับจ่ายใช้สอยเกิดรายได้ตามมากับเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย” นายศักดิ์สยามกล่าว
นอกจากนี้ การเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวภูเก็ตผ่านท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จะเป็นต้นแบบสำคัญโดยกระทรวงคมนาคม ได้ให้นโยบาย ให้ท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่งที่อยู่ในกำกับดูแลของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เตรียมมาตรการรองรับการเดินทางกลับมาของนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตไว้ด้วยเช่นกัน.- สำนักข่าวไทย