18 ต.ค.- ชุบชีวิตซากสัตว์เจาะลึกเรื่องราวการทำ Taxidermy รักษาซากสัตว์ที่มีความพร้อมและสมบูรณ์ที่สุดของประเทศ
ดร.นพรัตน์ เทพเทพา ผู้อำนวยการสำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (อพวช.) กล่าวว่า ศูนย์บริหารคลังตัวอย่างทางธรรมชาติวิทยาและสตัฟฟ์สัตว์ อพวช. เป็นศูนย์กลางของการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง เป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งมีการสตัฟฟ์สัตว์เพื่อการเก็บรักษา และจัดแสดงผ่านตัวอย่างสัตว์สตัฟฟ์เกือบทุกกลุ่ม ซึ่งการสตัฟฟ์สัตว์จะใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับศิลปะ ทำให้สัตว์ที่ตายแล้วมีท่าทางเสมือนยังมีชีวิตในอิริยาบถที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อใช้สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการ และเป็นตัวอย่างอ้างอิงทางวิชาการและศึกษาวิจัย ซึ่ง อพวช. เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสตัฟฟ์สัตว์อันดับต้น ๆ ของประเทศ ทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยีนวัตกรรมที่นำมาใช้
การสตัฟฟ์สัตว์ หรือ Taxidermy เป็นการใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับศิลปะ เพื่อให้ผลงานออกมาเสมือนจริงมากที่สุด โดยเฉพาะกายวิภาคเฉพาะของสัตว์ชนิดนั้นๆ ที่ใช้ในการคงสภาพร่างกายสัตว์หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว ให้เก็บรักษาอยู่ได้นาน และยังคงลักษณะของสัตว์ไว้ได้เหมือนเดิมทุกประการ ซึ่งจะต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ไม่ให้ชำรุดเสียหาย จากความร้อน ความชื้น แมลง เชื้อรา หนู และแมลงสาบ ที่อาจทำความเสียหายต่อสัตว์สตัฟฟ์ได้ รวมถึงการตกแต่งลักษณะภายนอกให้ครบสมบูรณ์ ถูกต้อง และสวยงาม เหมือนกับการได้ชุบชีวิตสัตว์ตัวหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง
นายวัชระ สงวนสมบัติ ผู้อำนวยการกองศูนย์บริหารคลังตัวอย่าง อพวช. กล่าวว่า นักธรรมชาติวิทยา อพวช. ได้ศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาและการเก็บรักษาวัสดุตัวอย่างด้านธรรมชาติวิทยามา โดยเฉพาะการสตัฟฟ์สัตว์ด้วยเทคนิคสมัยใหม่อย่าง Taxidermy ด้วยความพร้อมทางด้านบุคลากร สถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ จึงมีการจัดฝึกอบรมหลักสูตรการสตัฟฟ์สัตว์ให้แก่นักวิจัย นักศึกษา และผู้สนใจอีกด้วย
โดย อพวช. ได้ทำการสตัฟฟ์สัตว์มาอย่างต่อเนื่อง จำนวนกว่า 478 ตัว อาทิ เสือโคร่ง ยีราฟ ม้าลาย จระเข้ ปลาช่อนอเมซอน และพะยูน ฯลฯ ซึ่งได้รับความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและเอกชน องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้ พัทยา และโรงพยาบาลสัตว์ เป็นต้น ซึ่งได้นำสัตว์ที่เสียชีวิตแล้วมาให้ อพวช. ดำเนินการต่อแทนที่จะต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าไป โดย อพวช. สามารถชุบชีวิตสัตว์ที่ตายไปแล้วให้กลับมาเหมือนมีชีวิตอีกครั้ง เพื่อนำมาจัดแสดงนิทรรศการให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้ ถือเป็นประโยชน์และมิติใหม่ของแนวทางการจัดนิทรรศการด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทยและกลายเป็นสมบัติของประเทศชาติต่อไป และสิ่งสำคัญคือการได้สร้างการรับรู้ถึงบทบาทของ อพวช. ในด้านนี้ เพื่อหวังสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนที่มีความสนใจเรื่องวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางสู่เส้นทางสายอาชีพของการเป็นนัก Taxidermist สำหรับเยาวชนในอนาคตต่อไป.-สำนักข่าวไทย