กมธ.งบปี 64 ปรับลดงบ 31,000 ล้านบาท

รัฐสภา 16 ก.ย.- กมธ.งบ 64 พิจารณาลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จำนวน 31,000 ล้านบาท เพิ่มงบสาธารณสุข-มหาดไทย-ศาล-กองทุนเสมอภาคทางการศึกษา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระที่ 2 และ 3

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 รายงานต่อสภาว่า ตั้งแต่การรับหลักการในวาระที่ 1 ในวันที่ 3 ก.ค. 2563 และ กมธ.วิสามัญฯ เริ่มพิจารณาในวันที่ 8 ก.ค. – 8 ก.ย. 2563 โดยพิจารณางบประมาณของ 721 หน่วยงาน และพิจารณาตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ ความมั่นคงของชาติ แนวนโยบายของรัฐบาล เงื่อนไขเศรษฐกิจและผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีข้อเสนอให้รัฐบาลได้กำหนดตัวชี้วัดโดยต้นทุน การประเมินความคุ้มค่า และให้ความสำคัญกับการทำงบประมาณบูรณาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มงบประมาณในการลงทุน เช่น การบริหารจัดการน้ำ การศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม และสาธารณสุข


การดำเนินงานแบ่งเป็น 8 คณะอนุกรรมาธิการ โดยปรับลดงบประมาณ 31,965,549,000 บาท จาก 1.รายการที่ไม่สอดคล้องกับสภาพในปัจจุบันหรือที่ดำเนินการไปแล้วโดยการใช้จ่ายโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 2.รายการที่สามารถปรับลดเป้าหมายหรือปรับเปลี่ยนในประหยัด เช่น การอบรมสัมมนา การจ้างเหมาบริการ การจ้างที่ปรึกษา การประชาสัมพันธ์ การเดินทางไปราชการต่างประเทศ เป็นต้น 3. รายการที่มีการดำเนินการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดและคาดว่าไม่สามารถดำเนินการในปี 2564 4. รายการที่ใช้งบประมาณจากแหล่งอื่นนอกเหนืองบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ เพื่อนำไปจัดสรรให้กับส่วนราชการตามที่ ครม. เสนอตามความเหมาะสมและจำเป็น 17,419 ล้านบาท จัดสรรให้หน่วยงานรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ และองค์กรอัยการ จำนวน 509 ล้านบาท ทำให้เหลืองบประมาณปี 2564 รวม 3.28 ล้านล้านบาท นอกจากนี้มีการเพิ่มงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อค่าใช้จ่ายสำหรับบุคคลากร, กระทรวงมหาดไทย เพื่อสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้ป่วยเอดส์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษี, กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา, สำนักงานศาลยุติธรรม รวม 1,792,828,700 บาท

จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณา มาตรา 1 ชื่อพระราชบัญญัติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสนอให้ต่อท้ายชื่อพระราชบัญญัติว่า ที่มาจากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้สำนึกว่าเงินที่ใช้เป็นของประชาชน ตั้งแต่รัฐประหารถึงปัจจุบันใช้งบสุรุ่ยสุร่ายมาตลอด ใช้วิธีการกู้เงินมาแจกแล้วก็กู้เงินต่อ รวมถึงงบประมาณที่ตั้งไม่ได้คำนึงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน และพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าไม่ควรให้โอกาสรัฐบาลอีกแล้ว

ขณะที่มาตรา 2 การกำหนดวันบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.นั้น นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายแปรญัตติจากเดิมระบุให้ พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม แต่ไม่ได้กำหนดวันสิ้นสุดไว้ จึงทำให้มีการของบประมาณกันเผื่อไว้ จึงเห็นควรให้เขียนชัดเจนว่ามีผลบังคับใช้ถึง 1 กันยายน เพื่อทำความเข้าใจกับหน่วยงานราชการจะเบิกจ่ายล้าช้าไม่ได้ จะได้เกิดการใช้จ่ายโดยรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และขอให้สำนักงบประมาณตั้งเป็นข้อสังเกตในการจัดทำร่างกฎหมายปีต่อไป


มาตรา 3 การรักษาการตามพระราชบัญญัติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายแปรญัตติจากเดิมกำหนดในมาตรา 3 ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ เปลี่ยนเป็นให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ตั้งแต่งบประมาณปี 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากปัญหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลายคนลาออกจนจำไม่ได้แล้ว จึงต้องให้คณะรัฐมนตรีเข้าไปรักษาการเพื่อร่วมรับผิดชอบด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง