ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-นายกฯ ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ประเมินสถานการณ์ หลังพบซากเชื้อโควิด-19 จากการกักตัวหลัง 14 วันไปแล้ว “นพ.อุดม” ยืนยันพบซากเชื้อ ไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบ 2 ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ย้ำความจำเป็นพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับมหาลัยออกซ์ฟอร์ด เพื่อให้ได้สิทธิ์ทำวัคซีน ได้รับมาตรฐานโลก ผลิตและจำหน่ายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เรียกประชุมคณะ ศบค.ชุดเล็ก ประกอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นพ.อุดม คชินทร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช)
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าร่วมประชุม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะไปแล้ว และล่าสุดพบกรณี 2 หญิงไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและผ่านการกักกันตัว 14 วันแล้ว กลับบ้านใช้ชีวิตปกติ แต่หลังจากนั้นเข้าตรวจร่างกายเพื่อเดินทางกลับไปต่างประเทศ พบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด -19 แต่เชื้อน้อยมาก รวมถึงเตรียมการการผ่อนปรนเปิดให้ผู้ชมกีฬา คอนเสิร์ต การเดินทางเต็มรูปแบบภายในประเทศ ทั้งทางบก น้ำ อากาศ
ก่อนการประชุม นพ.อุดม กล่าวถึงกรณี 2 หญิงไทยล่าสุด ว่า ซากเชื้อโควิด-19 ไม่แพร่ระบาด ซึ่งจากการยืนยันของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าทั้ง 2 คนผ่านการกักกันตัวของรัฐ 14 วัน โดยไม่พบเชื้อ ก็ไม่มีปัญหา แต่ทั้งนี้การพบซากเชื้อในไทยพบอยู่ประปราย ยืนยันว่าซากเชื้อไม่ติดต่อ ขอประชาชนสบายใจได้ อย่าตื่นตระหนก โดยจะไม่ส่งผลต่อการผ่อนคลายมาตการใด ๆ เพราะที่ผ่านมาไทยไม่เคยลดมาตรการด้านสาธารณสุข และการพบซากเชื้อ ก็ไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบ 2
ส่วนการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่ยังไม่พิจารณางบประมาณ 600 ล้านบาท ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด นั้น นพ.อุดม ชี้แจงว่า หากไทยดำเนินการเอง ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปีครึ่ง ซึ่งประเทศมีบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่พร้อมผลิตได้ แต่เมื่อยกระดับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด จะพัฒนาผลิตวัคซีนได้ถึง 200 ล้านโดส เมื่อมีความร่วมมือ ก็จะเป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก และสามารถจำหน่ายวัคซีนให้ต่างประเทศได้ ทั้งนี้ยืนยันวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน โควิด-19 คือ การผลิตวัคซีนมาป้องกัน เช่น อังกฤษ
“ขอยืนยันว่ามีความจำเป็น ที่คงต้อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการป้องกันโควิด-19 เพราะเป็นกฎหมายตัวเดียวที่รวมหลายหน่วยงานไว้ โดยขออดทนอีก 1 เดือน” นพ.อุดม กล่าว.-สำนักข่าวไทย