5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5ตัวประกันถึงไทย

สุวรรณภูมิ 9 ก.พ.-5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่วานนี้ ทีมงานโรงพยาบาลชาเมียร์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Shamir Medical Center ) ของอิสราเอล ได้ทำพิธีอำลาคนไทยทั้ง 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากกาซา ภายหลังตรวจเช็กสภาพร่างกายเสร็จสิ้นแล้วนั้น


ล่าสุด วันนี้คนไทยทั้ง 5 คน ประกอบด้วย 1.นายวัชระ ศรีอ้วน 2.นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา  3.นายเสถียร สุวรรณคำ 4.นายสุระศักดิ์ ลำเนา และ 5.นายบรรณวัชร แซ่ท้าว พร้อมครอบครัว ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน มาถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยแล้ว ในเวลา 7.24 น. ด้วยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK 374 โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอให้การต้อนรับ

จากนั้น เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ทันทีที่คนไทยทั้ง 5 คน เดินออกมายังอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ตัวประกันทั้งหมดได้สวมกอดญาติๆ ด้วยความดีใจ ซึ่งหลายคนทนไม่ไหวถึงกับร้องไห้ออกมา ขณะเดียวกัน นายมาริษ พร้อมด้วยนางซากิฟ ก็ได้เข้าพูดคุยกับตัวประกันและญาติของตัวประกันทั้ง 5 คน


ก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะแถลงข่าว โดยระบุว่า ภาพที่เห็นเป็นอะไรที่สุดๆ แล้ว สำหรับคนๆ หนึ่งที่ได้กลับมาสู่อ้อมอกของครอบครัว เพราะครอบครัวเกือบทุกคนไม่ได้เจอหน้าครอบครัวมาหลายปีแล้ว มีครอบครัวพูดกับตนว่าไม่คิดเลยว่าจะได้มีโอกาสในวันนี้

พร้อมย้ำว่า ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เคยคิดว่าจะหมดหวัง วันนี้จึงถือเป็นผลงานที่ปรากฏ ซึ่งน้ำตาความปลื้มปิติของครอบครัวทุกท่านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และถือเป็นกำลังใจของข้าราชการทุกหน่วยงาน ดังนั้นขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทหาร โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ได้เดินทางไปพร้อมกับตนเองตั้งแต่วันแรกที่ได้ทราบข่าวว่าตัวประกันทั้ง 5 คนจะได้รับการปล่อยตัว และขณะนี้อยู่ในมือของรัฐบาลอิสราเอลแล้ว

ขณะเดียวกัน ก็ขอขอบคุณมิตรทุกประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเรามาโดยตลอด วันนี้จึงถือเป็นผลสำเร็จ ซี่งครอบครัวทุกคนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และขอยืนยันว่ารัฐบาล รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะดูแลพี่น้องชาวไทยทุกท่าน เพื่อให้พี่น้องคนไทยที่เดินทางไปใช้ชีวิตและประกอบอาชีพอยู่ในต่างประเทศ ทำงานเพื่อครอบครัว และทำงานเพื่อประเทศชาติ มีชีวิตที่ดี เพราะตนไม่เคยที่จะไม่คิดถึงความอยู่ดีกินดีของทุกท่าน รวมทั้งจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พี่น้องชาวไทยทุกคนที่อยู่ในต่างประเทศได้ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศอย่างมีความสุข สามารถติดต่อกับครอบครัวได้ ซึ่งนี่ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนและข้าราชการทุกหน่วยงานยังคงทำงานกันต่อไป แม้จะมีความยากลำบากหรืออุปสรรคแต่ก็ไม่เคยย่อท้อและยังคงผลักดันต่อไป ก่อนกล่าวว่าทุกคนมีสุขภาพที่ดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือสุขภาพจิต ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านกลับสู่สภาพความเป็นอยู่ที่ปกติโดยเร็วที่สุด


ส่วนเรื่องของสิทธิ์ทั้งหลายที่น้องคนไทยทั้ง5 คนจะได้รับนั้น ปลัดกระทรวงแรงงาน แจ้งว่าจะดำเนินการตามสิทธิที่จำเป็นต้องได้ ในส่วนของประเทศอิสราเอลเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูต ที่จะต้องคุยกับรัฐบาลอิสราเอล

สำหรับตัวประกันคนไทยที่เหลืออยู่อีก 1 คนในอิสราเอล ย้ำว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งใจและยังคงมีความหวัง โดยจะทำต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็จะนำร่างของคนไทยอีก 2 คนที่เสียชีวิตกลับมาสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่าได้คุยกับรัฐบาลอิสราเอล ว่าจะต้องมีความพยายามร่วมกันมากขึ้น เพื่อยกระดับแรงงานที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ให้เขาสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองและกลายเป็นผู้ประกอบการได้ เพราะไม่อยากให้ยุติอยู่เพียงแค่ในฐานะแรงงานเท่านั้น ตลอดจนดึงเอาแรงงานฝีมือใหม่ๆขึ้นมาด้วย

ก่อนทิ้งท้ายว่า เราจะติดตามผลในการกลับคืนสู่สังคมของคนไทยทั้ง 5 คนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เขาเข้าไปอยู่ในสังคมและครอบครัวได้อย่างปกติที่สุด เพราะวันแรกที่พูดคุยกับแรงงานทราบมาว่าหลายคนนอนไม่หลับ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าในเรื่องของร่างกายคงไม่มีปัญหา แต่อยากเห็นพัฒนาการเรื่องของสุขภาพจิตตามไปด้วย

ด้านปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวขอบคุณทุกคน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานภาคภูมิใจเป็นที่สุด ตนอยากจะเรียนว่าในส่วนที่เป็นสิทธิประโยชน์ เราจะดูแลอย่างเต็มที่สิทธิประโยชน์ใดๆ ที่พี่น้องแรงงานจะได้รับทั้ง 5 คน เราจะติดตาม นอกเหนือจากนั้นตนได้เรียนหารือกับนายมาริษก็ได้ให้ข้อสังเกตมากมายเรื่องของการพัฒนาคนไทยทั้ง 5 คนให้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมให้กับพี่น้องคนไทยและคนที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล

“คนไทยทุกคนที่ไปทำงานต่างประเทศ ท่านคือแม่ทัพแรงงาน ได้ส่งเงินเข้าประเทศ 2-3 แสนล้านบาท ถือเป็นการขับเคลื่อนประเทศชาติ ขอขอบคุณและต้อนรับสู่อ้อมกอด” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว

ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ แทนนา ตัวแทนแรงงาน กล่าวว่า พวกตนขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนช่วยเหลือพวกเรา วันนี้มายืนอยู่ตรงนี้ จะมีวันนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีพวกท่าน พวกเรารู้สึกซาบซึ้งที่ได้กลับมาแผ่นดินเกิดอีกครั้งหนึ่ง พวกเราทุกคนขอบคุณจริงๆ ไม่รู้จะพูดอย่างไร

ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายมาริษ พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงแรงงานได้เดินไปส่งถึงที่รถ เพื่อส่งคนไทยทั้ง 5 คนและครอบครัวเดินทางกลับภูมิลำเนา.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน. นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้

ศาล รธน. 13 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้ เปิดให้เจ้าตัวเข้าไต่สวนพร้อมเลขาฯ สมช. 21 ส.ค. ไม่มาถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวยอมรับว่า เป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จฮุน เซน จริง แม้ น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า น.ส.แพทองธาร แสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการ รวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 […]

ทบ.แจงปมขอรับบริจาคลวดหนาม จำเป็นต้องใช้เร่งด่วน

กองทัพบก 13 ส.ค.- โฆษก ทบ. แจงกองทัพภาค 2 ขอรับบริจาค “ลวดหนามหีบเพลง” เหตุจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยกำลังพล สกัดการลักลอบเข้าพื้นที่ของทหารกัมพูชา ชี้หากรอกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ใช้เวลา 1 เดือน ย้ำรัฐบาล-กองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน และให้มาขอกับรัฐบาลว่า ยืนยันรัฐบาลและกองทัพมีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน “การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่วิธีจัดหาใช้แบบพิเศษได้ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญ กรณีลวดหีบเพลงสเปกที่ทหารใช้ ไม่มีในท้องตลาดต้องสั่งผลิตจึงใช้เวลานานขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ งบประมาณมีอย่างเพียงพอ มีแค่เรื่องเวลา” โฆษก ทบ. กล่าวและว่า […]

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]