ถกคดีแก๊งเกาหลีฆ่าเพื่อนร่วมชาติ เร่งล่าอีก 1

สน.คลองตัน 15 พ.ค.- รอง ผบช.น. ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีแก๊งเกาหลีฆ่าเพื่อนร่วมชาติ เร่งติดตามผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี หลังศาลออกหมายจับ


พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) มาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีฆ่านายโรห์ อึน จง อายุ 34 ปี ชาวเกาหลี ที่ถูกเพื่อนร่วมชาติฆ่าเอาร่างยัดใส่ถัง 200 ลิตร แล้วโบกปูนถ่วงน้ำที่อ่างเก็บน้ำมาบประชัน หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5, พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน, พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่งวานนี้(14 พ.ค.) ทางพนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับนายโรอุน ลี (Mr.Roun Lee) อายุ 25 ปี, นายยังจิน ลี (Mr.Yongjin Lee) อายุ 29 ปี และนายฮยองวอน คิม (Mr.Hyeonggwon Kim) อายุ 35 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ในข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้ กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน, ร่วมกันเอาตัวบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีไป โดยใช้อุบาย หลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือ ร่วมกันหน่วง เหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ ความตาย เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วน ของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, ร่วมกันลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ


พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ทางตำรวจของประเทศกัมพูชา สามารถควบคุมตัวนายยังจิน ลี (Mr.Yongjin Lee) อายุ 29 ปี ได้ที่พักแห่งหนึ่งในพนมเปญ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่าน และตำรวจเกาหลีใต้ได้ควบคุมตัวนายโรอุน ลี (Mr.Roun Lee) อายุ 25 ปี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยผลการสืบสวนสอบสวนคนร้ายทั้งสองคนสอดคล้องกับคำให้การของภรรยาของนายฮยองวอน คิม ที่ ขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ โดยตำรวจเกาหลีได้ให้ข้อมูลส่วนหนึ่งจากภรรยาของนายฮยองวอน คิม ว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ทะเบียน 9 กม 5674 มารับนายโรห์ อึน จง ผู้ตาย ออกมาจากผับย่านอาร์ซีเอ ร่วมกับนายโรอุน ลี ซึ่งนั่งด้านหน้าซ้าย และมีนายยังจิน ลี ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ตาย และนั่งประกบผู้ตายที่เบาะด้านหลัง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการสืบสวนสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ออกจากโรงแรมที่พักเพื่อมาที่ย่านอาร์ซีเอ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อจะวางยาและปล้นทรัพย์

รอง ผบช.น. กล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ตายและกลุ่มผู้ต้องหารู้จักกันก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยผู้ตายได้มีการโชว์โทรศัพท์มือถือให้เห็นว่ามีเงินเยอะ ทางกลุ่มผู้ต้องหาจึงมีการนัดหมายให้เจอกันที่ผับย่านอาร์ซีเอ โดยผู้ตายได้ออกจากโรงแรมที่พักเวลาประมาณ 20.00 น. และใช้เวลา 30 นาทีก็ถึงร้าน ส่วนนายยังจิน ลี ออกจากที่พักเวลาประมาณ 22.00 น. ส่วนนายโรอุน ลี และนายฮยองวอน ได้ออกจากบ้านที่เช่าพักไว้ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค. เวลา 00.10 น. จากนั้นได้มีการมอมยานายโรห์ อึน จง และหลอกล่อออกจากร้าน พาขึ้นรถยนต์ระหว่างทางนายโรห์ อึน จง ได้สติและเกิดการต่อสู้ ทางนายโรอุน ลี จึงข้ามจากที่นั่งด้านซ้ายคนขับ มาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนนายโรห์ อึน จง ได้สลบไป และเสียชีวิต

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า นายฮยองวอน คิม อ้างกับภรรยาว่าทางนายโรอุน ลี และนายยังจิน ลี พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจหรือทำซีพีอาร์ เพื่อให้นายโรห์ อึน จง ฟื้นขึ้นมา โดยระหว่างนั้นได้พยายามบังคับให้บอกรหัสโทรศัพท์มือถือ และรหัสบัญชีการโอนเงิน ซึ่งพบว่าวันที่ 7 พ.ค.ได้มีการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้ตายผ่านแอปพลิเคชัน จำนวนเงิน 1.7 ล้านวอน และ 2 ล้านวอน 2 ครั้ง ซึ่งได้ประสานงานกับตำรวจเกาหลีให้ช่วยตรวจสอบว่าปลายทางการโอนเงินเป็นของบุคคลใด


พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ประสานแพทย์จากนิติเวชในการชันสูตร เบื้องต้นพบว่าซี่โครง 2 และ 3 ทางด้านซ้ายและด้านขวาหัก และกระดูกด้านหน้าซี่ที่ 3 และ 4 ก็หักเช่นเดียวกัน สอดคล้องกันกับที่นายโรอุน ลี และนายยังจิน ลี ได้ต่อยและใช้เข่ากระแทกไปที่ลิ้นปี่หรือท้อง ซึ่งเป็นจุดที่อาจทำให้เสียชีวิต ส่วนผลชันสูตรพลิกศพพบว่าระบบการหายใจล้มเหลว ระบบหมุนเวียนโลหิตล้มเหลว จากนั้นได้พากันไปที่บ้านพักย่านร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ต่อมานายยังจิน ลี ได้สั่งให้นายฮยองวอน คิมไปเอากระเป๋าที่คอนโดย่านสุขุมวิท มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะนำไปใช้ในการขนย้ายศพ จากนั้นนายฮยองวอน คิมและนายยังจิน ลี ได้ขนย้ายศพไปยังพัทยา จังหวัดชลบุรี

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ทั้งนี้ การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดนอกจากจะมีการซื้อถังเชือกยังมีการซื้อกรรไกรเชื่อว่ากรรไกรดังกล่าวเป็นกรรไกรที่นำมาใช้ในการตัดนิ้วของผู้ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้ดีเอ็นเอที่เกิดจากการต่อสู้กันเกิดขึ้นติดไปกับนิ้วของผู้ตายและจะใช้เป็นหลักฐานทางคดี และเป็นการอำพรางไม่ให้ตำรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ว่าเป็นบุคคลใด ทั้งนี้คดีนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยังไม่พบประวัติอาชญากรรมในไทย

รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อออกหมายแดง และประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจเกาหลี เพื่อติดตามตัวนายฮยองวอน คิมที่ยังหลบหนีอยู่ ทั้งนี้ทางภรรยาของนายฮยองวอน คิม บอกว่าหากผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกส่งตัวไปยังประเทศเกาหลีแล้วจะเข้ามอบตัว อย่างไรก็ตามได้ประสานงานไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหา

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการมาเร่งรัดคดีในวันนี้ทางพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ต้องการให้รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม และพยานวัตถุ รวมถึงการสอบปากคำทุกปาก และภาพกล้องวงจรปิดทุกจุด ที่ส่อให้เห็นถึงพฤติการณ์ของคนร้าย รวมถึงพยานหลักฐานในการซื้อสิ่งของและการซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยให้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน ถ้ามีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาก็จะส่งให้พนักงานอัยการ หากอัยการสั่งฟ้องจะส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อเข้าสู่กระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้มีการตรวจสอบรถยนต์สีเทา ซึ่งเป็นรถที่กลุ่มคนร้ายพานายโรห์ อึน จง ขึ้นรถขับออกมาจากผับย่านมักกะสันก่อนจะพาไปยังบ้านพักย่านร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ -419 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ