กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – นายกรัฐมนตรี ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าประชาชน กร้าวขีดเส้น 30 วัน ต้องจับตัวการใหญ่อาชญากรรมไซเบอร์ให้ได้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ พร้อมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับให้นโยบายตำรวจในสังกัด โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ กำลังถูกสังคมเพ่งเล็งอยู่มาก จึงเป็นที่มาของการมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้นำไปสู่การย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้ง 2 นาย ก็เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปได้ ไม่ไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นเด็กของคนนั้นคนนี้ ตนเองก็คิดว่าไม่ยุติธรรมกับ พล.ต.ท.วรวัฒน์ แต่ก็ไม่มีอะไรตอบสังคมได้ดีไปกว่าการปฏิบัติตัว ซึ่งหมายรวมไปถึงผู้บัญชาการของหน่วยงานต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ทุกคน ต้องมีการพิสูจน์ตัวเองว่าจริง ๆ แล้วใครเป็นเจ้านายโดยแท้จริง ซึ่งไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่เป็นประชาชน
ดังนั้น ที่ตนเองมาในวันนี้เพื่อต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะเวลาอันใกล้ ต้องการให้เกิดผลงานที่ชัดเจนโดยเร็ว และต้องไม่ใช่การจับกุมเพียงอาชญากรรายเล็ก แต่ต้องเป็นรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวยออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันเถื่อน เฟคนิวส์ ซึ่งกระทบต่อพี่น้องประชาชน การที่ประชาชนถูกหลอกลวงต้มตุ๋น ไม่ใช่ปัญหาของประชาชนที่ถูกหลอกลวง แต่เป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศด้วย ดังนั้นผลงานของตำรวจไซเบอร์ต้องเป็นที่ประจักษ์ภายใน 30 วัน มิฉะนั้นมีปัญหาแน่นอน ส่วนคดีความของ 2 นายตำรวจก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของยุติธรรม เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้อยู่อย่างมีความสุข อย่าให้ถูกซ้ำเติมตรงนี้ โดยเฉพาะการถูกหลอกลวง เงินหมดไปก็เป็นส่วนหนึ่งของอาชญากร ตรงนี้ถือเป็นสารตั้งต้น ที่ต้องขจัดปัญหานี้ออกไปให้หมดจากสังคมไทย ผมยืนยันเรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียสยืนยัน 30 วัน ต้องชัดเจน ซึ่งพี่น้องถูกหลอกลวงทุกวันนี้ยังมีอยู่ จะต้องทำงานกันอย่างชัดเจนและใกล้ชิด เพราะเทคโนโลยีไปไกลมาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิตและสังคม (ดีอี) พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ผมเจอรัฐมนตรีดีอีในวันที่ 2 เม.ย.นี้. -416-สำนักข่าวไทย