fbpx

“ทักษิณ” เผยอบอุ่น ได้กลับบ้านเกิดในรอบ 17 ปี

เชียงใหม่ 16 มี.ค.- “ทักษิณ” บอกอบอุ่น ได้กลับบ้านเกิดเชียงใหม่ในรอบ 17 ปี ขอความเห็นใจคนแก่วัย 75 บอกใครไม่ชอบให้ต่างคนต่างอยู่ พร้อมให้กำลังใจ นายกฯ เศรษฐา ฝ่าวิกฤติปัจจุบันที่หนักกว่ายุคต้มยำกุ้ง เชื่อเศรษฐกิจดีทุกอย่างดีตาม เปรียบกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ชี้ห่วงปัญหาฝุ่น PM 2.5 เร่งแก้และสร้างพื้นที่สีเขียว


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ว่า รู้สึกอบอุ่นดีใจ 17 ปีที่หายไปกลับมาก็คิดถึงบ้านเกิด เมืองนอน คิดถึงอาหาร วัฒนธรรม คนเก่าๆ ว่าเป็นธรรมชาติที่ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น

ส่วนช่วงสงกรานต์จะปีนี้ มีความตั้งใจว่าจะกลับมาจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง เพราะรักในวัฒนธรรม จึงอยากกลับมา ร่วมประเพณีรดน้ำดำหัวด้วย


นายทักษิณ กล่าวว่าการกลับมาเชียงใหม่ครั้งนี้สิ่งที่อยากพัฒนาแก้ไข คือเรื่องฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาหนักที่สุด เป็นห่วงอยู่ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ทราบปัญหาและได้รีบแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ยังมองว่าปัญหาส่วนหนึ่งคือความแห้งแล้ง อยากให้ฟื้นโดยการไม่ต้องใช้น้ำมาก จะทำให้สภาพแวดล้อมชุ่มชื้นเขียวได้ ซึ่งจะทำให้อากาศกลับมาสภาพดี ซึ่งตนเป็นห่วงเพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตามเรื่องเศรษฐกิจก็ต้องดีด้วย ซึ่งตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ได้วางแผนที่จะฟื้นเศรษฐกิจอยู่ เพราะถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างก็จะดีตาม เปรียบกับกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าท้องไม่อิ่มก็ลำบาก

เมื่อถามว่าให้กำลังใจนายกเศรษฐาเรื่องอะไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า ให้กำลังใจทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง มีความซับซ้อนมากกว่า ส่วนจะให้ข้อคิดนายเศรษฐาอย่างไรในฐานะที่เคยแก้วิกฤติต้มยำกุ้งมามาก่อน นายทักษิณบอกว่าบางอย่างก็ใช้ได้บางอย่างก็ต้องเปลี่ยนเพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม นักการเมืองก็ต้องร่วมมือกับข้าราชการฝ่ายประจำ ต้องให้กำลังใจกัน

เมื่อถาม ถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น ว่า ดราม่าก็คือดราม่า นั่นหมายความว่าเป็นเรื่องไม่จริง ส่วนกระแสป่วยจริงหรือไม่จริงในการลงพื้นที่นั้น นายทักษิณกล่าวว่าภาวะจิตใจคนเป็นเรื่องที่สำคัญ หากภาวะจิตใจแย่มันก็แย่ ทำให้บางอย่างมันรวนได้ ตอนนี้กำลังใจดีมีลูกสาว อยู่ใกล้หลาน 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่วัย 75 ยังไงก็ขอให้โปรดเข้าใจคนแก่ในวัยนี้ ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานด้วย ใครไม่ชอบหน้าตนก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวแล้วก็กำลังใจดีขึ้น แต่ถามว่าอาการป่วยทุกวันนี้ก็ยังมีอาการกดกระดูกประสาทของคอและหลัง และมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ตนเป็นโควิด อาการหนักมากตอนนั้นเข้าไอซียูถึง 9 วัน ข้างในร่างกายก็มีผลบ้าง ทำให้ตอนนี้ปอดยังมีอาการอยู่หลายจุด จากนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้พูดเสริมระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่อไม่ชอบยอมรับว่าป่วย จนกระทั่งได้เข้าไอซียูออกมาถึงจะรับ เมื่อถามว่าใครดื้อกว่ากัน นางสาวแพทองธาร จึงได้ชี้ไปที่นายทักษิณ และบอกว่าพ่อเป็นต้นตำรับ นายทักษิณจึงบอกว่า ยอมรับตัวเลข 75ได้ แต่ไม่อยากยอมรับว่าแก่ ทั้งที่มันคือธรรมชาติ ฝืนมันไม่อยากแก่


จากนั้น นายทักษิณ และครอบครัว ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินส่วนตัวทันที .-719-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้