กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – คุมตัว “ตะวัน-ณัฐชนน” ดำเนินคดีที่ สน.ดินแดง หลังศาลออกหมายจับข้อหาความผิดมาตรา 116 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีบีบแตรขวางขบวนเสด็จ ด้าน ผบก.น.1 ยันไม่ได้ยัดข้อหา มั่นใจในพยานหลักฐาน
ช่วงเย็นวันนี้ (13 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าแสดงหมายศาล ควบคุมตัว นางสาวทานตะวัน และนายณัฐชนน ผู้ต้องหาความผิดมาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีพยายามขับรถแซงขบวนเสด็จ ไปที่ สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดี โดยเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการปะทะ โดยกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนได้เดินไปส่งและตามไปให้กำลังใจต่อที่ สน.ดินแดง
เมื่อถึง สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปสอบสวน ขณะที่บรรยากาศรอบ สน.ดินแดง มีกลุ่มมวลชนมาติดตามเหตุการณ์อยู่บริเวณหน้า สน. ขณะที่ตำรวจวางกำลังอย่างแน่นหนา นำแผงเหล็กมาปิดบริเวณทางเข้า-ออก สน. เพื่อรักษาความปลอดภัย
สำหรับข้อห นางสาวทานตะวัน มี 3 ข้อหา ประกอบด้วย มาตรา 116 คือ “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา และร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ”
ส่วนข้อหาของนายณัฐชนน ประกอบด้วย ข้อหามาตรา 116 “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร, ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ และใช้เสียงสัญญาณ เสียงยาวหรือซ้ำโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งข้อหานี้มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรา 116 ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จนกระทั่งชุดทำคดี มั่นใจในพยานหลักฐานและเพียงพอที่จะขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้ โดยผู้พิพากษาไต่สวนเข้มข้นนานถึง 2 ชั่วโมง พร้อมย้ำว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เน้นย้ำให้มีความรอบคอบในการสืบสวนหาข้อมูล ร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง ทั้งทางอิเล็กทรอนิกส์และโซเชียล รวมเอกสารกว่า 100 แผ่น.-สำนักข่าวไทย