รมว.กลาโหม ยันไม่ปิดประตูคุยสันติสุขชายแดนใต้

ปทุมธานี 23 เม.ย.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม ยันไม่ปิดประตูคุยสันติสุขชายแดนใต้ แต่คู่เจรจาต้องมีอำนาจสั่งการชัดเจน และต้องคุยภายใต้รัฐธรรมนูญไทย มีรัฐเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ขีดเส้นทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง รายงานผลดับไฟใต้ใน 7 วัน หลังเหตุถี่ ย้ำ คือคำสั่ง ไม่ใช่การขอความร่วมมือ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ ที่เกิดเหตุรุนแรงจากจุด ว่า เรื่องมันต่อเนื่องมาตั้งแต่ที่ตนอยากจะเปลี่ยนยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาภาคใต้อยู่แล้ว สิ่งที่ยากลำบากคือ บางทีเราคุยกับหลายส่วน แต่มันได้ความจริงของแต่ละคน ซึ่งยากลำบากและซับซ้อนเกินกว่าที่จะสรุปได้ และยากที่จะบอกว่าจะกำหนดยุทธศาสตร์อย่างไร จึงนำมาซึ่งการที่ยังไม่สามารถแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข เพราะแม้เจรจามาหลายสิบปีแล้ว การสู้รบก็ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก จึงได้พูดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ถ้ายังใช้ยุทธศาสตร์เดิมแล้วคิดว่าถูกต้อง มันต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก แต่ถ้ามันยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้ ก็ต้องคิดใหม่ เพราะคิดแบบเดิมก็ได้เหมือนเดิม ตนจึงเสนอที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วเราพยายามรวบรวมรับฟังความเห็นต่างๆ ของแต่ละส่วน


จริงๆ ปลายสัปดาห์นี้ ตนตั้งใจจะลงพื้นที่ไป โดยโปรแกรมที่วางไว้คือการพูดคุยกับนายอำเภอทุกอำเภอของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณครึ่งวัน แล้วต่อด้วยการพูดคุยกับผู้กำกับทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ จากที่ได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 4 แล้ว จะขอพูดคุยกับผู้บังคับการกรมและผู้บังคับกองพันของหน่วยในพื้นที่ รวมไปถึงทหารพราน เพราะแม้การไปประชุมและการรับฟังตามขั้นตอนก็เป็นเรื่องจำเป็น แต่คิดว่าอาจไม่สามารถนำมาแก้ปัญหาได้ทั้งหมด โดยก่อนจะเข้าประชุม ตนได้คุยกับผู้บังคับการกรมและผู้บังคับการกองพัน ซึ่งมันออกรสชาติและเห็นปัญหาหลายอย่างมากขึ้น จึงอยากนั่งคุยแบบนี้ แต่พอเกิดเหตุรุนแรง ก็คิดว่าต้องลงพื้นที่ โดยยังไม่สนใจที่จะประชุมตามที่ได้เล่าไป แต่ทางหน่วยในพื้นที่ได้แจ้งมาว่าขอทำงานก่อน เพราะถ้าผู้บังคับบัญชาลงไป อย่างไรก็ต้องมีคนมาต้อนรับ งานก็จะมีปัญหา ตนจึงให้เขาทำงานไปก่อน แต่ก็ค่อนข้างเป็นห่วง เพราะเหตุที่เกิดครั้งนี้มันไม่ปกติ จึงคิดว่าควรต้องเรียกคุย ซึ่งตนทำหลายอย่างเพราะไม่คิดว่าวิธีเดียวจะแก้ปัญหาได้ และตนรู้สึกว่าจากการที่ได้คุยกับหลายส่วนเราทำงานเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างเดียวหรือไม่เราต้องทำงานเชิงรุกและอยากเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยุติโดยเร็ว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ การที่เราบอกว่าไม่ทอดทิ้งเขา สร้างความมั่นใจให้เขา มันต้องมีรูปธรรมให้เห็นว่าสร้างความมั่นใจได้จริง จึงอยากให้ทำเร็วที่สุดหรืออย่างน้อย 7 วันมาคุยกับตนอีกครั้ง คิดว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แล้วเมื่อคืนนี้ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบกซึ่งมีภารกิจอยู่ที่สิงคโปร์ และได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย โดยอยากให้มีมาตรการที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการเปิดปฏิบัติการหรืออะไรก็ตามต้องทำให้เป็นเชิงรุกและทำให้สถานการณ์ยุติเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงข้อดีคือการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นอย่างแท้จริง ซึ่งทั้งผบ. ทบและผบตรก็รับปฏิบัติ ใครที่ขาดหรือจำเป็นต้องเสริมก็ให้แจ้ง มา และขอให้ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ควรกระทำอย่างเต็มที่ และเป็นในเชิงรุก เพื่อยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเร็ว และเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึง เลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งในส่วนของ ศอ.บต. คงไม่มีอะไรมากเพราะทำงานในเรื่องของการพัฒนา แต่การระงับยับยั้งการเกิดเหตุ คงต้องใช้เวลาก็อยากให้ไปคุย และตนก็มีภาพในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์อยู่ในใจแล้ว คุยกับเหล่าทัพทั้งหมด นอกจากนี้เป็นเรื่องได้ยินดีที่ไทยได้รับความร่วมมือจาก ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ชัดเจนมากขึ้นว่าอยากช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ และกำลังตั้งผู้อำนวยความสะดวกคนใหม่ขึ้นมา โดยตนจะนัดหมายเจอกัน และตนก็ได้เตรียมตัวกับทีมงาน และจะได้ไปบอกกับเขาว่า ถ้าอยากให้มีตัวกลางเจรจา ก็ต้องบอกให้ชัดเจนว่าเขาต้องการอะไร คนที่จะมาคุยก็ต้องเป็นตัวแทนที่สามารถยุติการสู้รบให้เห็นได้อย่างมีเงื่อนเวลา แล้วมาคุยกัน และจะฝากอีกว่า สิ่งที่จะคุยกับตนได้ ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่มีพื้นฐานยอมรับกันได้ ส่วนในระยะยาว ตนก็ยังคิดอีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งทางมาเลเซียเองก็อยากแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ชายแดนเช่นกัน

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้ปิดประตูคณะเจรจา แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ก็ใครคือตัวแทน BRN ซึ่งต้องเป็นคนที่คุยแล้วจะเกิดผล เพราะคราวที่แล้วตนขอไปว่าในช่วงเดือนรอมฎอน ขออย่าให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ถ้าทำได้ แปลว่าคุณมีอำนาจในการยุติได้ ตนก็อยากคุย แต่มันก็ไม่จบ ถ้าเจรจาแล้วจะได้อะไร นี่ไม่ได้หมายความว่าตนปฏิเสธการเจรจา แต่คุณต้องบอกชัดเจนว่าใคร คือคนที่จะมาเจรจา ตนพร้อมคุยด้วย ถ้าเงื่อนไขที่ยื่นมาพอรับได้ อย่างเช่น ต้องคุยอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการเป็นรัฐเดี่ยวต่อไป ซึ่งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้น แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นรัฐอิสระ แยกออกไป ขอย้ำว่า แผ่นดินไทยแยกไม่ได้ ก็ต้องคุยตรงนี้ให้ชัด แต่เรายอมรับสังคมพหุนิยม วัฒนธรรมพหุนิยม ส่วนรายละเอียดที่จะยุติค่อยมาว่ากัน ตนยังไม่มีตัวเลขที่ตายตัวว่าจะเป็นอย่างไร แต่เขาต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า หนทางที่จะไป มันเป็นไปได้ เพราะตนได้รับการติดต่อมาหลายทาง ก็รับฟังและนำมาขบคิด พร้อมยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรื่องภาคใต้ตอนนี้ 7 วัน ให้เขารายงานเข้ามา ก็หวังว่าจะเกิดสิ่งที่ดี และนี่เป็นคำสั่งการ ไม่ใช่ขอร้อง สั่งการให้ดำเนินการ ให้ได้ตามเป้าประเมิน


เมื่อถามว่าที่จะมีการยกเลิกกฎอัยการศึก ในพื้นที่ 4 อำเภอ จะต้องชะลอไปก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องชะลอเพราะโดยภาพรวมแล้วยังไม่เป็นปัญหา อะไรที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็ให้ดำเนินการไปก่อน

พร้อมกันนี้ นายภูมิธรรมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ตนพยายามและให้ความมั่นใจ ว่าเราต้องการสร้างความมั่นใจให้ประชาชน และเราจะดูแลคุ้มครองทุกคน ให้เต็มที่ที่สุด ที่เราพึงจะกระทำให้ได้.-313.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]