รถเมล์สาย 40 พุ่งชนรถติดไฟแดงหน้าจุฬา เสียหาย 20 คัน

กทม. 2 ธ.ค.-รถเมล์สาย 40 พุ่งชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ขณะจอดติดไฟแดง บนถนนพญาไท ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน รถเสียหายรวม 20 คัน ส่วนสาเหตุคนขับเผลอเหยียบคันเร่งแทนเบรก 


ช่วงเย็นวานนี้ เกิดอุบัติเหตุรถเมล์สาย 40 พุ่งชนรถที่จอดติดไฟแดงบริเวณหน้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท มุ่งหน้ามาบุญครอง ทำให้รถยนต์ รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อรับจ้าง รวมทั้งหมด 20 คัน ได้รับความเสียหาย ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง 

ตำรวจ สน.ปทุมวัน ต้องประสานรถยก เพื่อเปิดเส้นทางจราจรอย่างเร่งด่วน เพราะรถที่ชนกันหลายคัน ส่งผลให้การจราจรบนถนนพญาไท ต่อเนื่องถนนพระรามสี่ ขาเข้าติดขัดเป็นอย่างมาก ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดการจราจรได้ตามปกติ ส่วนผู้เสียหายรวมถึงคนขับรถเมล์ตำรวจเชิญตัวไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อสอบสวน 


นายอำพร คนขับรถแท็กซี่ ที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่การจราจรติดขัด รถเมล์สาย 40 ได้พุ่งเข้ามาชนท้ายอย่างแรง ก่อนที่จะดันรถของตัวเองไปชนรถคันอื่นๆ ที่จอดอยู่ใกล้เคียงกัน ทำให้มีผู้เสียหายหลายคัน สอบถามพนักงานขับรถเมล์บอกเพียงสั้นๆ ว่ามีปัญหาในเรื่องระบบเบรก ทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ ก่อนพุ่งชนรถคันที่จอดอยู่ข้างๆ

หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ เดินทางออกจากโรงพยาบาลมาที่ สน.ปทุมวัน เล่าว่า ขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน รถติดอยู่บนถนนพญาไท ได้ยินเสียงดังมาจากรถคันข้างหลัง ก่อนที่รถของตัวเองจะถูกชนทุกทิศทาง ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา เนื่องจากถูกอัดติดกับตัวรถไม่สามารถออกจากรถได้ รถตัวเองหม้อน้ำแตก ทำให้เกิดควันบริเวณห้องเครื่องรถยนต์ ยิ่งรู้สึกตกใจ ก่อนที่กู้ภัยจะเข้ามาช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาล   

ขณะที่ พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เปิดเผย จากการสอบปากคำพนักงานขับรถโดยสารสาย 40 เบื้องต้นให้การว่า เพิ่งขับรถเมล์ไฟฟ้าได้ 2 เดือน ก่อนเกิดเหตุ ตกใจจึงพยายามเหยียบเบรก แต่เผลอไปเหยียบคันเร่ง ทำให้รถพุ่งไปจอดรถคันที่จอดติดการจราจรอยู่ด้านหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้คนขับมีประสบการณ์ขับรถโดยสารประจำทาง NGV มานานกว่า 20 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งตรวจสอบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและได้รับเสียหายทั้งหมดจำนวนกี่ราย เบื้องต้นพิจารณาแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เอารถมีประกันประเภท 3 ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทางบริษัทรถโดยสารประจำทางมีประกันประเภท 3 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างประกันรถคันอื่น ๆ ของผู้เสียหาย เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด 


ด้านบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ได้ทำหนังสือชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุของการชนครั้งนี้ ทางบริษัทได้ตรวจสอบหลักฐาน พร้อมสอบถามข้อมูลกับพนักงานขับรถ ยอมรับเผลอเหยียบคันเร่งแทนการเหยียบเบรก ทำให้รถพุ่งไปชนรถด้านหน้าจนเกิดอุบัติเหตุ โดยตัวรถนั้นไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด ทางบริษัทฯ จะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด และลงโทษพนักงานขับรถตามมาตรการขั้นเด็ดขาด พร้อมกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงระบบการให้บริการที่ดีขึ้น ด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนการช่วยเหลือช่วงเวลาเกิดเหตุ ทางบริษัทได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที เพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พร้อมประสานประกันภัยเข้าดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ขณะเดียวกันทางบริษัท ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอแสดงความรับผิดชอบ ดูแลค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบทุกรายอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย