กทม. 27 ก.ย.-“บิ๊กโจ๊ก” นำทีม 8 ตำรวจ ตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจต่อสู้คดี ด้านทนายอนันต์ชัย ประกาศความมั่นใจ ช่วยลูกความสู้คดี เตือนคนไม่หวังดี ระวังโดนเอาคืนย้อนหลัง ลั่นสัปดาห์หน้ามีบิ๊กเซอร์ไพรส์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเจ้าพบนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ที่สำนักงานกฎหมาย ย่านโชคชัย 4 และมีตำรวจ 8 นาย ที่ตกผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ เกี่ยวข้องในคดีเว็บพนันออนไลน์ เพื่อเข้าหารือแนวทางการสู้คดี หลังจากการพูดคุยสอบถามข้อมูล ทั้งหมดได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจกับสื่อมวลชนชี้แจงข้อเท็จจริง
นายอนันต์ชัย ทนายความ เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกหนักใจในการรับทำคดีครั้งนี้ ต้องชี้ให้เห็นว่ามินนี่ทำธุรกิจออนไลน์จริงหรือไม่ เพราะเขาก็มีธุรกิจอื่นๆ พร้อมฝากเตือนถึงชุดพนักงานสอบสวนของ สอท. ทั้งหมด ที่นำข้อมูลในคดีออกมาเผยแพร่ ชี้ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าทำในสิ่งที่ถูกใจ ยืนยันจะทำความจริงให้ปรากฏ หากใครผิดต้องรับผิด หากใครไม่ผิดก็ต้องได้รับความเป็นธรรม จะสู้แบบปัญญาชน
ส่วนเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ไปยื่นคำร้องที่ศาลอาญา เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกชุด PCT4 ตรวจค้นบ้าน เบื้องต้นศาลมีคำสั่งให้นัดไต่สวนฯ คำร้องในวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ขอให้จับตาสัปดาห์หน้า มีบิ๊กเซอร์ไพรส์ ยืนยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู ให้รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องของคดีความนั้น ได้มอบหมายให้ทนายอนันต์ชัย เป็นผู้ดูแล และเป็นผู้ให้รายละเอียดกับสื่อมวลชน หากถูกพาดพิงเกี่ยวพันกับเว็บพนันนออนไลน์ ก็ได้ตั้งทีมทนายเพื่อฟ้องร้องหากทำให้เสื่อมเสีย
พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ยอมรับว่ารู้จักมินนี่ แต่ไม่รู้ว่าทำธุรกิจอะไร ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง รู้จักแม่มินนี่ตอนปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดเลย ส่วนพ่อเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและเป็นชุด ก.ตร. ในพื้นที่ด้วย เคยคุยกับมินนี่ครั้งเดียว หลังจากมินนี่ถูกจับ และเคยไปงานเลี้ยงด้วยกัน 2 ครั้ง เพิ่งเจอมินนี่ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนภาพถ่ายที่ปรากฏเป็นภาพช่วงต้นปีที่ผ่านมา มินนี่มาขอถ่ายรูปเอง คุยกันไม่ถึง 1 นาที ซึ่งคนมาขอถ่ายรูปก็เป็นเรื่องปกติ ยืนยันตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ยืนยันว่า มีบัญชีธนาคารเงินเดือนบัญชีเดียว ไม่มีบัญชีอื่น เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้ง ตั้งข้อสังเกตการออกหมายจับไม่ปกติ มีการระบุว่าเป็นนาย และมีอาชีพรับจ้าง ทั้งที่รู้ว่าตนเป็นข้าราชการตำรวจ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน และได้ขอโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปแล้ว ยืนยันยังมีกำลังใจ ไม่ได้ท้อแท้แต่อย่างใด ส่วนผู้ที่นำเรื่องส่วนตัวมาเผยแพร่ จะฟ้องร้องดำเนินคดีเพราะทำให้ตนเสียหาย
พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า วันนี้ไม่ได้วิตกกังวลหรือเครียดอะไร เพราะเรื่องจริงก็คือเรื่องจริง ความจริงก็คือความจริง ข้อเท็จจริงก็ต้องไปพิสูจน์ทราบกันต่อไปในภายภาคหน้า
มองว่าเรื่องนี้เหมือนถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ พล.ต.ต.นำเกียรติ บอกว่า วันหน้าเราจะทราบกันเองว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทั้งการออกหมายจับตำรวจ ใช้คำนำหน้าว่า “นาย” ซึ่งถ้าในระดับพลตำรวจตรีแล้ว ก็ต้องรู้อยู่แก่ใจว่าตำรวจคงไม่หลบหนี และก็ไปต้องมอบตัวเอง แต่นี่ก็ต้องมองว่ามีเจตนาอะไรหรือไม่ส่วนช่วงตอนจับกุมตัวเองนั้น ก็เป็นไปตามภาพที่ปรากฏ แล้วแต่สื่อจะพิจารณา ทุกคนเห็นภาพก็พิจารณาตัดสินใจได้ ขอไม่กล่าวถึงใคร การเข้าค้นเกินเหตุหรือไม่ ขอไม่กล่าวถึง ขอให้ประชาชนดูกันเองความจริงก็คือความจริง ไม่ตกใจหรือหวาดกลัวแค่อย่างใด
พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องไปพัวพันกับบัญชีม้าของเครือข่ายของพนันออนไลน์มินนี่ บอกว่า ไม่ขอพูดเรื่องดังกล่าว ขอให้ทนายอนันต์ชัยเป็นคนพูดแทน เพราะตนเองได้บอกรายละเอียดทั้งหมดไปแล้ว
ส่วนประเด็นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่าได้นำเงินส่วนตัวไปให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ไปบริหารจัดการนั้น ระบุว่าเรื่องดังกล่าวขอให้บิ๊กโจ๊กและทนายเป็นคนชี้แจง พร้อมยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์กับเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ ติดการพนันหรือไม่ได้ก็ตอบว่า ทุกอย่างมอบให้ทนายไปหมดแล้ว และเมื่อถามว่ามีปัญหาทางด้านการเงินหรือไม่ ก็ตอบเช่นเดียวกันว่าจะให้ทนายเป็นคนชี้แจง เพราะรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวข้องกับสำนวนในคดี
เมื่อถามย้ำว่าเอาเงินไปหมุนเพราะมีปัญหาทางด้านการเงินหรือไม่ ยังคงยืนยันว่า ไม่ครับ ผมไม่เล่นการพนันอยู่แล้วครับ.-สำนักข่าวไทย
