บช.ก. 25 มิ.ย. – “ทนายอนันต์ชัย” พร้อมแก๊งแอดเวนเจอร์ เข้าแจ้งความเด็ก 8 ขวบ เอาผิด 19 กรรม พร้อมเอาผิดทนาย และแอดมินอีก 60 คน ใน 6 ข้อหา ลั่นถ้าแม่เด็ก 8 ขวบ ยอมออกมาสารภาพต่อสังคมจะถอนแจ้งความให้ทั้งหมด
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยนางชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับลัทธิเชื่อมจิต โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1.น้องไนซ์ เชื่อมจิต 2.กลุ่มแอดมิน จำนวน 60 คน และ 3.ทนายธรรมราช สาระปัญญา ใน 6 ข้อหา
ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า สำหรับวันนี้ที่เดินทางมาที่นี่เพราะต้องการแจ้งความเอาผิดกับเด็ก 8 ขวบ, ทนายธรรมราช และแอดมิน 60 คน โดยที่ผ่านมาไม่เคยมีใครแจ้งความเด็กเลย แต่เมื่อวานนี้ทางเด็ก 8 ขวบได้ไลฟ์เปิดหน้าและพูดในไลฟ์ว่าจะเอาพวกเราติกคุก วันนี้จึงนำหลักฐานต่าง ๆ มาเอาทุกคน 3 กลุ่ม ใน 6 ข้อหา คือ ตาม พ.ร.บ.คอมฯ, ประมวลกฎหมายอาญา ม.341,343,83,84,86,90,91, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร มาตรา 5 และมาตรา 8, พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน มาตรา 13 และประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (8), 37 ทวิ, เอาผิดเด็ก 8 ขวบ ทั้งหมด 19 กรรม โดยกฎหมายระบุว่าเด็กกระทำผิดไม่ต้องรับโทษ แต่ถ้าพบว่าพ่อแม่ของเด็กกระทำผิดก็ต้องจับแยกออกจากกัน และเด็กต้องอยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ พม. และจะดำเนินคดีกับแอดมินทั้งหมด 60 คน โดยเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการแจ้งความเอาผิด 4 สื่อ มีเพียงแอดมินสาวคนเดียวที่ลงชื่อแจ้งความ โดยไม่มีชื่อคนอื่นๆ ปรากฏ เชื่อว่าเป็นการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ดำเนินคดีเพราะยังไม่มีหลักฐานมากพอ
ด้านนายแทนคุณ กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นที่ ทนายธรรมราชออกมาเรี่ยไรเงินจากประชาชน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเอาเงินส่วนนั้นมาสู้คดีกับพวกตน ตนมองว่ามันขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี โดยวันนี้ก็ได้นำหลักฐานส่วนนี้มาแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดยมีหลักฐานชัดเจนที่น่าเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการปลอมขึ้น เนื่องจากยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และในคอมเมนต์ใต้โพสเรี่ยไรเงิน ยังมีการระบุสลิปโอนเงินจากผู้บริจาค เป็นเงินจำนวน 0.99 บาท บ้าง 2 บาทบ้าง และสูงถึง 500 บาท ถึงบางยอดจะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร และยังมีหลักฐานการเสียภาษีของบริษัท สำนักงานกฎหมายและทนายความ ของทนายธรรมราช โดยตั้งแต่เป็นทนายมายังไม่มีการเสียภาษีเลย จึงนำหลักฐานส่วนนี้มาให้ทาง ปอศ.ตรวจสอบ
ด้าน ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวว่า ตนเคยร้องเรียนให้สอบมรรยาททนายความของทนายธรรมราช ว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ โดยร้องเรียนไปตั้งแต่เดือน ธ.ค.66 แต่เรื่องยังไม่มีความคืบหน้า และแม่เด็ก 8 ขวบ เคยพูดว่า “บอกว่ารักน้องทำไมทำกับน้องแบบนี้” จะบอกว่า เราสงสาร สงสารที่พ่อแม่ที่บอกว่ารักน้องทำกับน้องแบบนี้ ควรจะรักลูกให้ถูกทาง ตอนนี้พวกคุณกำลังทำร้ายเด็กคนนึงอยู่ และน้องมีอาการหนักขึ้นทุกวัน เราแค่อยากช่วยเด็กคนนึง ไม่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายเด็กเลย “เราไม่ได้รัก เราแค่สงสาร เท่านั้นเอง”
ทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้ต้องขอบคุณ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ที่กำลังดูเรื่องนี้อยู่ ท่านได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน และเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ฝากความหวังไว้ที่ บก.ปอท. ในเรื่องของคดี จากใจคนเป็นพ่อที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ ควรปรึกษายุวประสาท เป็นแพทย์เฉพาะทางให้ช่วยรักษาเด็ก และตัวแม่เองถ้ายอมมาสารภาพต่อสังคม ตนจะยอมถอนแจ้งความให้ในส่วนตนเอง เพื่อตัวของเด็กเอง และต้องสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เพราะสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง
นายแทนคุณ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของพัฒนาการของเด็ก 8 ขวบ ควรจะต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพราะจากการไลฟ์สอนธรรม น้องนิ่งได้ไม่เกิน 3 นาที จากภาษากายค่อนข้างเครียด เหมือนจะต้องทำตามคำสั่งให้เสร็จตลอด มีปัญหาทางพัฒนาการแน่นอน และเด็กถูกใช้เป็นเครื่องมือตลาด สร้างสตอรี่ที่เป็นเท็จ ในอนาคตเด็กจะอยู่ยากมาก ๆ เป็นไปไม่ได้ถ้าจะไม่โดนทักจากคนภายนอก ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงพอถ้าโดนโจมตีในอนาคต ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการกระทำของผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่.-420-สำนักข่าวไทย