เล็งออกหมายจับตำรวจเพิ่ม ช่วยทำลายหลักฐาน

กทม. 9 ก.ย.- “บิ๊กโจ๊ก” เผยเตรียมออกหมายจับตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ “หน่อง” มือปืนยิงสารวัตรทางหลวง ออกจากที่เกิดเหตุและช่วยทำลายพยานหลักฐาน


11.00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า คดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตในงานเลี้ยงประจำเดือนที่บ้านกำนันนก จังหวัดนครปฐม ว่า หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออำนาจศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายค้น เพื่อหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและออฟฟิศ ทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ตอนนี้สามารถแยกตำรวจทั้ง 25 นายออกเป็น 2 ถึง3 กลุ่ม ว่า ตำรวจนายไหนเข้าไปช่วยเหลือในเก็บกล้อง เข้าไปช่วยเหลือเอาผู้ร้ายหนี และกลุ่มที่หนีไปหลังกิดเหตุ ดังนั้นวันนี้ก็จะเรียกตำรวจทั้งหมด 25 นาย มาสอบปากคำ แต่ข้อมูลจากการสืบสวนครบหมดแล้ว เพราะฉะนั้นใครจะให้การอย่างไร โกหกยังไงก็ไม่มีประโยชน์

วันนี้เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วและรู้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ใครเกี่ยวข้องบ้าง เช่น ช่วยเหลือผู้ต้องหา ช่วยทำลายพยานหลักฐาน ช่วยพาผู้ต้องหาหนี ก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับ ในส่วนสำนวนหลักหรือสำนวนการเสียชีวิตของสารวัตรศิว ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนสำนวนการช่วยเหลือผู้ต้องหา การละทิ้งพื้นที่เกิดเหตุไม่ทำหน้าที่ อันเป็นความผิดฐานช่วยผู้ต้องหา ตามมาตรา 157 และความผิดฐานทำลายหลักฐาน ก็ต้องสอบให้สิ้นกระแสความก่อน ถ้าพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะไปขออนุญาตอำนาจศาลออกหมายจับ


อีกส่วนหนึ่ง คือเรื่องของวัตถุพยานในที่เกิดเหตุหรือมูลเหตุของการอุบัติเหตุว่ากำนันเป็นคนสั่งการให้ยิงหรือไม่ ซึ่งวันนี้จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าเรามีพยานหลักฐานมากเพียงพอที่ชัดเจนแล้วว่ากำนันเป็นคนสั่งยิง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในสำนวน คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะพยานหลักฐานมันนิ่งและตัวผู้ต้องหามันนิ่งอยู่แล้ว สิ่งสำคัญ ที่กำลังทำอยู่ คือการขยายผล ไล่ข้อมูลทั้งหมด ว่ามีใครอยู่ร่วมขบวนการกับกำนันบ้าง เพื่อดำเนินการกวาดล้าง รากถอนโคนให้หมดไปเสียที

กรณีชายชุดดำเข้าไปช่วยให้หน่องหลบหนี พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยอมรับว่ามีจริง วันนี้สรุปได้ว่ามีใคร เกี่ยวข้องบ้าง ใครเป็นผู้ให้การช่วยเหลือ ให้ผู้ต้องหาหลบหนี ใครเป็นคนทำลายพยานหลักฐาน ก็ต้องจัดการดำเนินการให้หมด โดยไม่มีการละเว้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก