24 เม.ย. – แจ้งข้อหา “ขับรถโดยประมาท” หนุ่มวัย 22 ปี ซิ่งซูเปอร์คาร์ มูลค่า 34 ล้านบาท ชนท้ายรถหรูผู้จัดการบริษัทห้างดัง จนไฟลุกไหม้เหลือแต่ซาก สารภาพเล่นมือถือขณะขับรถ ทำให้ไม่ทันมอง พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คู่กรณี
กล้องวงจรปิดบนถนนพุทธมณฑล ช่องทางด่วน (ขาเข้า) ใกล้เคียงซอยบรมราชชนนี 76 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จับภาพซูเปอร์คาร์ รถหรู และรถกระบะตู้ทึบ ชนกัน 3 คัน จากภาพจะเห็นรถกระบะตู้ทึบขับมาเลนกลาง ก่อนต่อมาจะเห็นรถหรูขับมาเลนกลางแล้วเปลี่ยนเข้าเลนขวาพอดี จากนั้นรถซูเปอร์คาร์ขับมาด้วยความเร็วและกระชั้นชิด จึงชนท้ายรถหรูอย่างจัง จนรถหรูเกยขึ้นมาบนหลังคารถซูเปอร์คาร์ ก่อนทั้ง 2 คันเสียหลักหมุนไปชนท้ายรถกระบะตู้ทึบจนพลิกตะแคง จากนั้นรถทั้ง 2 คันไถลไปชนกับแบริเออร์ข้างทางและเกิดเหตุไฟลุกท่วม โชคดีคนขับรถทั้ง 2 คัน หนีออกมาได้ทัน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาราว 20 นาที ฉีดน้ำควบคุมเพลิงไว้ได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.20 น. วานนี้ (23 เม.ย. 68)
ในที่เกิดเหตุพบชายคนขับรถหรูได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล ด้านคนขับซูเปอร์คาร์และรถกระบะตู้ทึบ บาดเจ็บเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวไปดูสภาพรถทั้ง 3 คันที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถูกนำมาจอดเก็บไว้ที่ สน.ธรรมศาลา พบซูเปอร์คาร์เฟอร์รารี่ รุ่น F8 TRIBUTO สีบรอนซ์เงิน อยู่ในสภาพถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันเหลือแต่ซากเหล็ก ไม่สามารถซ่อมแซมได้ สำหรับรถหรู เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C 220 สีบรอนซ์เงิน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดเช่นกัน และบริเวณซุ้มล้อหลังฝั่งซ้ายมีชุดจานเบรกของซูเปอร์คาร์ติดคาอยู่ ขณะเดียวกันรถกระบะตู้ทึบ ฝากระโปรงหน้าเสียหาย
ต่อมานายเฟียส อายุ 22 ปี คนขับรถซูเปอร์คาร์ พร้อมพ่อ อายุ 55 ปี เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.ธรรมศาลา เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งนายเฟียส รับสารภาพว่าสาเหตุมาจากเล่นมือถือขณะขับรถ ทำให้ไม่ทันมองและชนรถหรู พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คู่กรณีฝั่งรถหรูและรถกระบะตู้ทึบ
พ่อทำใจซูเปอร์คาร์ ราคา 34 ล้านบาท เหลือแต่ซาก
พ่อของนายเฟียส ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะเกิดเหตุลูกชายกำลังขับรถกลับบ้านย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังเกิดเหตุ ต่างฝ่ายต่างขอแยกย้ายกันไปโรงพยาบาล เพราะลูกชายมีอาการแน่นหน้าอกจากแรงกระแทกกับพวงมาลัย ส่วนรถที่ลูกชายขับเป็นชื่อของภรรยาตน ซื้อมาในราคา 34 ล้านบาท จดทะเบียนเมื่อปี 2022 มีทุนประกันอยู่ที่ 24 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตนเตือนลูกชายเรื่องขับรถเสมอ ไม่ให้ประมาท ส่วนเรื่องเมาแล้วขับ ยืนยันว่าลูกชายไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว หากลูกดื่มแอลกอฮอล์จะไม่ขับรถ และก่อนเกิดเหตุลูกก็ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์
พ.ต.อ.บุญโรจน์ โลจายะ ผกก.สน.ธรรมศาลา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายฐานวุฒิ อายุ 29 ปี ผู้จัดการสาขาบริษัทในเครือห้างดัง ขับรถหรูกลับจากไปส่งหลาน โดยจะกลับบ้านย่านถนนศาลาธรรมสพน์ โดยขับมาในช่องทางขวาสุด ส่วนนายเฟียส เป็นคนขับซูเปอร์คาร์ตามหลังมาด้วยความเร็วสูง ก่อนพุ่งชนท้าย ทำให้เสียหลักไปฟาดรถกระบะตู้ทึบของนายทองพิทักษ์ อายุ 51 ปี ที่ขับมาในเลนกลาง จนพลิกคว่ำ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทั้ง 3 คนแล้ว ไม่พบค่าแอลกอฮอล์ แต่ต้องรอผลปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด จากทางโรงพยาบาลด้วย.-สำนักข่าวไทย